ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต นำทีมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบพื้นที่พิพาท เทศบาลตำบลกะรน ผู้อ้างสิทธิ ชาวบ้าน กรณีการบุกรุกถนน ค.ส.ล. และลำรางสาธารณะซอยลูกปอ ตำบลกะรน ทำผู้สัญจรเข้าออกเดือดร้อน สั่งด่วนเทศบาลร่วมที่ดินเข้ารังวัด และสอบเขตฯ ใหม่ หากพบบุกรุกสั่งรื้อทันที
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ ที่ซอยลูกปอ ถ.ปฎัก ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วย น.อ.เพชรัตน์ เทียนจันทร์ รองผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 3 นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่เทศบาล เจ้าหน้าที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบโรงเก็บของเก่าทางเข้าซอยลูกปอ หลังมีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ตว่า อาคารดังกล่าวปลูกสร้างทับถนน และลำรางสาธารณะจนชาวบ้านเดือดร้อน เข้าออกด้วยความยากลำบาก
จากการตรวจสอบเบื้องต้น มีการก่อสร้างเป็นอาคารชั่วคราว กว้างขนาด 2.2 เมตร ยาว 3 เมตร ซึ่งเป็นอาคารที่ใช้สำหรับเก็บของเก่า ปลูกสร้างในลักษณะกีดขวางทางสาธารณะ ค.ส.ล. เมื่อตรวจสอบหลักเขตลำรางสาธารณะก็พบว่า ลำรางสาธารณะเดิมอยู่ใต้แนวถนน และอาคารสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งปัจจุบันเจ้าของให้เช่าเปิดกิจการเป็นร้านสะดวกซื้อ
ขณะเข้าตรวจสอบมี นางพรพรรณ ว่องไว ผู้อ้างเป็นเจ้าของที่ดินเข้าให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ว่า พื้นที่ดังกล่าวเนื้อที่ 60 ตารางวา ตนซื้อต่อมาถูกต้อง ขณะซื้อมานั้นมีการก่อสร้างเปลี่ยนแปลงสภาพลำรางไปแล้ว และตนได้มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในที่ดินตาม น.ส.3.ก แต่ที่ก่อสร้างทับถนน ค.ส.ล.ของเทศบาลนั้น เนื่องจากเห็นว่าเทศบาลได้ก่อสร้างถนนล้ำเข้ามาในเขตที่ดินของตน โดยไม่ได้ทำตามคำขอก่อนหน้าที่ขอให้มีการก่อสร้างถนนเพียง 2 เมตร ตนจึงได้ยื่นคัดค้าน และมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ก็มีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนออกมาให้ข้อมูลที่แย้งกับเจ้าของที่ดินจนเกือบมีการโต้เถียงกัน
เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งดังกล่าว รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้สั่งให้เทศบาลตำบลกะรน ทำหนังสือคำร้องไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดเพื่อขอให้มีการรังวัดใหม่ในจุดดังกล่าว โดยใช้ข้อมูลจากสารระบบของสำนักงานที่ดิน เพื่อหาแนวลำรางสาธารณะเดิม ก่อนจะมีการสอบเขตที่ดิน เมื่อแล้วเสร็จให้ส่งข้อมูลให้ศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งหากพบแนวเขตที่ชัดเจน และพบว่าฝ่ายใดบุกรุกก็จะดำเนินการรื้อถอนทันที โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย โดยจะให้เจ้าหน้าที่ที่ดินเริ่มดำเนินการรังวัดเพื่อหาลำรางสาธารณะ ก่อนสอบเขตที่ดินในวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.)
ด้านเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกะรน กล่าวว่า พื้นที่ขัดแย้งดังกล่าว เทศบาลตำบลกะรนได้เข้ามาดำเนินการก่อสร้างถนนสาธารณะ ค.ส.ล.เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2550 ซึ่งก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีต กว้าง 2 เมตร ยาว 68 เมตร เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้เป็นทางสัญจร ขณะนั้นเจ้าของที่ดินคือ นางพรพรรณ ว่องไว มีการรับรองแนวเขตว่าการก่อสร้างไม่ได้อยู่ในเขตที่ดินของตน แต่เมื่อดำเนินการก่อสร้างไปสักระยะ เจ้าของที่ดินกลับมีการคัดค้านว่าผู้รับเหมาของเทศบาลไม่ได้ทำตามแนวเขตที่รับรองไว้ ก่อนจะมีการนำแผงเหล็ก และกระถางต้นไม้มากั้น และก่อสร้างอาคารทับถนน ค.ส.ล. ภายหลังถูกเทศบาลออกคำสั่งให้รื้อถอน เนื่องจากเป็นการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร นางพรพรรณ เจ้าของที่ดินได้ฟ้องร้องต่อศาลปกครองว่า เทศบาลออกคำสั่งโดยมิชอบ แต่ศาลปกครองมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 55 ว่า คำสั่งของเทศบาลฯ เป็นคำสั่งโดยชอบ สามารถดำเนินการรื้อถอนได้
ขณะที่ชาวบ้านซึ่งได้รับความเดือดร้อนบางส่วนได้ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นมีความล่าช้า ทั้งเทศบาลตำบลกะรน และหน่วยงานอื่นๆ ที่เข้ามาตรวจสอบ ทั้งอำเภอ คณะกรรมการสิทธิมนุษย์ชน และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีการร้องไปยังหน่วยงานเหล่านั้น และมีการลงมาตรวจสอบไปแล้วก่อนหน้า แต่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข จนถึงวันนี้ ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ก็มีคำสั่งให้มีการรังวัดตรวจสอบลำรางสาธารณะใหม่ ทั้งที่มีคำพิพากษาของศาลปกครองให้เทศบาลตำบลกะรนมีอำนาจรื้อถอนตามกฏหมายไปแล้วกว่า 1 ปี และตามคำพิพากษานั้น เจ้าหน้าที่สามารถทำการรื้อถอนได้เลยโดยไม่ต้องมีการตรวจสอบ แต่ขณะเดียวกัน ก็เชื่อว่าถึงแม้จะเริ่มต้นกระบวนการตรวจสอบใหม่ ผลที่ได้รับก็คงไม่เปลี่ยนแปลง
