ชาวบ้านฉะเจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้าว่าไล่ที่ชาวบ้านไม่พอ ยังตัดน้ำประปา ถมคลอง เดือดร้อนไปถึงชาวบ้านหมู่อื่น บอกพระไม่มีเมตตา สมควรย้ายออกไปอยู่ที่อื่นได้แล้ว ด้านทหารเข้าไปช่วยพูดกับวัดยังต้องหงายเงิบกลับมา ถึงกับเอ่ยปากว่าสงสารประชาชน บอกเจ้าอาวาสควรจะมีเมตตามากกว่านี้!
ปัญหาที่เรื้อรังมานาน
กลายเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน เมื่อ “วัดแก้วฟ้า” จ.นนทบุรี อ้างสิทธิ์ที่ดินขับไล่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณวัดตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย
หากยังจำกันได้ วัดแก้วฟ้าแห่งนี้โด่งดังมาจากเป็นสถานที่จัดพิธีทำบุญอายุ 60 ปี ตัดกรรม หงายบาตร ให้กับอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2552 ทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานพิธีสะเดาะห์เคราะห์ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของทักษิณ ชินวัตร ครบรอบ 64 ปี ในวันที่ 26 ก.ค.2556 ด้วย ดังนั้น ถ้าจะบอกว่าวัดแก้วฟ้านี้มีสายสัมพันธ์กับอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ก็คงจะไม่ผิด
“ป้าน้อย” (นามสมมติ) ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เขตของวัดแก้วฟ้าได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live ว่า เดิมเจ้าอาวาสองค์ก่อนได้อนุญาตให้ชาวบ้านเข้ามาอยู่อาศัยได้ แต่พอเจ้าอาวาสองค์เดิมมรณภาพและมีเจ้าอาวาสคนใหม่เข้ามา คือ “พระโสภณรัตนาภรณ์”(ไพศาล กิตฺติภทฺโท) ก็ไม่อนุญาตให้ต่อท่อน้ำประปาจากวัดไปใช้ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ต้องอาศัยน้ำใช้จากคลองที่เชื่อมมาจากคลองบางกอกน้อย ซ้ำตอนหลังวัดยังได้ถมคลองนี้เพื่อใช้เป็นสะพานข้ามทางในวัด ทำให้น้ำในคลองเน่า ชาวบ้านไม่สามารถใช้น้ำได้ สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่วัดและพื้นที่ใกล้เคียง
“ป้าอยู่ที่นี่มาตั้งแต่บรรพบุรุษ ตั้งแต่สมภารคนเก่า เขามาบอกให้ย้ายออกไป แต่ป้าขออยู่ เพราะป้าไม่มีญาติ ไม่มีที่ไป คือ เราขอเมตตาจากวัดว่าขออยู่และขอน้ำใช้บ้าง พอไม่มีน้ำใช้ ก็เดือดร้อน อบต.เลยต้องเอาถังน้ำมาให้ โดยเขาจะซื้อน้ำและใส่รถบรรทุกมาให้ประจำ คือ เราน้ำหมดเมื่อไหร่ก็แจ้ง เรื่องที่เกิดขึ้น เราก็หนักใจ เรารู้ว่าตามกฎหมาย เขามีสิทธิไล่เรา ตอนนี้เลยต้องไปขอความช่วยเหลือจากทหาร เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว เจ้าอาวาสคนนี้ ต่อหน้าคนอื่นจะพูดดีมาก” ป้าน้อยกล่าว
ในขณะที่ชาวบ้านอีกคนบอกว่าพฤติกรรมของเจ้าอาวาสหลายเรื่อง ทำให้ชาวบ้านแถบนี้ไม่ศรัทธา จึงหันไปทำบุญที่วัดอื่นกันหมด
“พูดตรงๆ ว่าวัดกับวัดด้วยกันยังไม่อยากจะยุ่ง คือ เวลาวัดแก้วฟ้าเชิญวัดอื่นมาร่วมสวดมนต์ วัดอื่นก็จะไม่มายุ่งด้วย หรือเวลาทำบุญ คนแถวนี้จะไม่เข้าไปทำบุญที่นี่ แม้กระทั่งเวลามีคนตาย วัดก็สวดไม่ได้ ไม่มีใครสวด เหมือนเขาไม่รับ ชาวบ้านเลยต้องเอาศพไปวัดอื่น แต่พอพ่อแม่เจ้าอาวาสตาย ได้ยินว่าเอาศพไปสวดบนศาลา ชาวบ้านเลยข้องใจว่าพ่อแม่ตัวเองสวดได้ แต่คนอื่นสวดไม่ได้
“ แล้วคุณคิดดูว่าขนาดคนที่โดนไล่ที่ เขาจะย้ายบ้านไป เขาเลยถวายบ้านไม้ของตัวเองให้วัดอื่น พอวัดอื่นจะขนไม้ไป วัดยังไม่ยอมให้ขนไม้ผ่าน ห้องน้ำก็ไม่ให้เข้า เขาต้องไปขออนุญาตหมู่บ้านข้างๆ ใช้เป็นทางผ่านเข้าไปขนไม้ ใช้เป็นที่วางไม้ระหว่างขนส่ง หรือคลองตั้งอยู่หลังวัด มีมาตั้งนาน ขอลอกคลอง วัดก็ไม่ยอมให้ลอก อ้างว่าเสียงดังรบกวนพระปฏิบัติธรรม
“ ส่วนชาวบ้านที่เข้าไปร้องเรียนกับทหาร หลังจากนั้นยังโดนตัดน้ำเลย เหมือนว่าไม่พอใจที่ไปร้องเรียนเขา พอผมขอไปคุยกับเจ้าอาวาส ท่านก็บอกไม่คุย แค่โบกมือบ้ายบายว่า “ไปๆ กูไม่คุย” ผมก็เอ๊ะ มันใช่เรื่องหรือ พูดง่ายๆ คือ เขาใหญ่และมีอำนาจหนุนหลังเขา ขนาดคสช. ลงมา ชาวบ้านหวังพึ่งทหาร เพื่อให้ดูแลชาวบ้านหน่อย แต่ทหารก็ทำอะไรเขาไม่ได้เหมือนกัน
“ปัญหาทุกวันนี้ ผมมองว่าเป็นเพราะเจ้าอาวาสอยากขับไล่ชาวบ้าน เพื่อเอาเนื้อที่วัดไปทำอะไรไม่ทราบ อยากรู้ว่าจะขับไล่ชาวบ้านเพื่ออะไร เพราะจะทำอะไรก็ไม่เห็นเป็นกิจจะลักษณะ ความจริงท่านอยากทำอะไร ชาวบ้านก็ไม่ว่า แต่นี่ไปขับไล่เขา ไปขอประปาก็ไม่ให้ผ่านที่วัด ไม่มีเมตตา ทั้งที่ความจริงวัดกับประชาชนต้องพึ่งพากันและกัน ผมแนะนำว่าเจ้าอาวาสควรจะย้ายไปอยู่ที่อื่น คือวัดแก้วฟ้าไม่ได้ผิด แต่คนปกครองวัดผิด”
วัดถมคลองจนชาวบ้านเดือดร้อน
นอกจากวัดจะมีปัญหาไล่ที่ชาวบ้าน และ ไม่อนุญาตให้ชาวบ้านใช้น้ำประปาแล้ว ไม่นานนี้วัดแก้วฟ้ายังได้ทำการถมพื้นที่คลองที่อยู่บริเวณหน้าวัด เพื่อใช้เป็นสะพานข้ามทาง โดยไม่ใส่ท่อระบายน้ำลงไปด้วย ทำให้กลายเป็นคลองปิดตายและเกิดกรณีพิพาทกับชาวบ้านในพื้นที่ขึ้นมาอีก เนื่องจากคลองนี้เชื่อมต่อระหว่างคลองบางกอกน้อยและเป็นคลองที่เชื่อมเข้าไปทางหมู่2 ,หมู่ 3 และหมู่ 5 ของต.บางขนุน จ. นนทบุรี ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านได้อาศัยใช้น้ำจากคลองนี้ รวมถึงใช้เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำและใช้น้ำเพื่อการเกษตรกรรม แต่พอเจอวัดปิดทางผ่านน้ำ ชาวบ้านละแวกนี้จึงเดือดร้อนไปตามๆ กัน
ลุงหมู (นามสมมติ) ชาวบ้านที่ตั้งถิ่นฐานอยู่หน้าวัดได้เล่าให้ทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live ฟังว่า
“วัดเริ่มถมดินปิดคลองมาได้ประมาณ 6-7 เดือน แล้ว โดยไม่ได้บอกชาวบ้านก่อน อยู่ดีๆ ก็เอารถมาถมดินใส่เลย ผมเห็นอย่างนี้แล้วก็พูดไม่ออก เขาบอกว่าเป็นที่ของวัด เขาจะทำก็ได้ แต่ผมมองว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องความชอบธรรมของเขา แต่วัดควรจะมีเมตตาด้วย เพราะหลังวัดเป็นคลองหมดเลยนะ พอมาปิดคลองอย่างนี้ น้ำก็เข้าไม่ได้ เรือก็เข้าไม่ได้ ชาวบ้านที่อยู่ข้างในเลยร้องเรียน แต่ทางวัดก็มีทนายความมาสู้”
นอกจากนั้นลุงหมูยังได้เผยพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้าว่าไม่เหมาะสมตรงที่ไม่ยอมมาเจรจากับชาวบ้าน เพื่อหาข้อยุติ ทำให้ปัญหาพิพาทไม่จบสิ้นสักที
“เจ้าอาวาสไม่ค่อยมาคุยหรอก ใครจะพูดอะไร เขาใช้ทนายความมาอย่างเดียว เหมือนตอนชาวบ้านไปร้องเรียนที่อำเภอ ถามอะไร ทนายความก็บอกว่าต้องปรึกษาเจ้าอาวาสก่อน ความจริงถ้าเจ้าอาวาสมาคุยเองเลย จะได้คุยเลยว่าจะเอายังไง แต่พอส่งทนายความไป เขาก็ต้องบอกว่ารอปรึกษาเจ้าอาวาสก่อน เรื่องจึงไม่ไปถึงไหนสักที
“มีชาวบ้าน 2-3 หลังที่อยู่ข้างหลังวัด เคยขอต่อประปามาใช้ได้สำเร็จ แต่พอไปร้องเรียนกับอำเภอก็ถูกวัดตัดน้ำ ไม่ให้ใช้เลย ตอนหลังชาวบ้านไม่ค่อยอยากยุ่งกับวัดมาก เนื่องจากกลัวเดือดร้อน เพราะยังต้องอาศัยวัดอยู่ บางคนยังต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่วัด บางคนใช้วัดเป็นที่จอดรถ
“หลายปีก่อน เคยมีชาวบ้านบางคนไปจอดรถที่วัด แล้วมีคนแกล้งปล่อยลม เขาเลยไปด่า วันต่อมารถโดนทุบกระจก เจ้าของรถเลยไปโวยอีก ปรากฏว่าผ่านไป 6-7 วัน เจอคนวางเพลิงรถ ไฟลุกทั้งคันเลย ไม่รู้ใครทำ” ลุงหมูเล่า
ในขณะที่ชาวบ้านอีกคนเรียกร้องให้ทางวัดเปิดคลองให้ชาวบ้านใช้ โดยบอกว่า
“ตั้งแต่ผมเกิดมา ผมก็เห็นคลองนี้แล้ว มันเป็นคลองยาวเกือบ 10 เมตร ชาวบ้านอาศัยใช้น้ำนี้มาตั้งนานแล้ว เลยอยากให้ทางวัดช่วยกรุณาเปิดคลองให้ชาวบ้านได้ใช้ คือ ควรจะเปิดคลองให้เหมือนเดิม แต่นี่วัดถมดินเพื่อจะใช้เป็นสะพานข้าม โดยไม่ใส่ท่อระบายน้ำ เพื่อให้น้ำระบายออก ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ถือว่าไม่สมควร”
ทหารวอนขอเมตตาจากวัด
เมื่อชาวบ้านที่อยู่รอบๆ วัดแก้วฟ้าได้รับความเดือดร้อน จึงได้รวมตัวกันไปร้องเรียนกับคสช. ในวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่ดูท่าว่าแม้ฝ่ายทหารจะเข้ามาช่วยเหลือก็ทำอะไรไม่ได้นัก เพราะวัดได้อ้างว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินวัดซึ่งรวมไปถึงคลองที่อยู่บริเวณหน้าวัดด้วย ทั้งนี้ “พันตรีเสริมพันธ์ แหลมหลัก” ฝ่ายทหารที่ดูแลเรื่องนี้ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live ว่า
“พอเราเข้าไปคุยกับวัด วัดบอกว่าจะต่อน้ำให้ชาวบ้านใช้ แต่วันต่อมาวัดก็ตัดน้ำประปาชาวบ้านเฉยเลย คือ จะมีบางบ้าน 2-3 หลังที่อยู่ติดกับวัด แล้ววัดอนุญาตให้ต่อน้ำประปามาใช้ได้ แต่เหมือนว่าพอวัดรู้ว่าบ้านนี้มาร้องเรียนกับ คสช. วัดก็ยกเลิกให้ใช้น้ำทันที ผมเลยแจ้งให้ผู้การทราบ ผู้การเลยเข้าไปคุยกับทางวัดอีก แต่ยังไม่รู้ว่าคืบหน้ายังไง เพราะความจริงแล้ววัดเป็นนิติบุคคล เราจะไปยุ่งมากก็ไม่ได้ ถ้าเราจะทำอะไรเขาหรือเข้าไปงัดข้อเลย ก็ผิดกฎหมาย เราจึงต้องใช้วิธีขอความเมตตา ซึ่งเราไปขอความเมตตาจากเจ้าอาวาสมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล
“แล้วพอวัดถมที่ขวางทางคลอง น้ำก็ไม่เข้าไปในคลอง ชาวบ้านไม่มีน้ำคลองใช้ กลายเป็นเรื่องเดือดร้อนอีก ความจริงในโฉนดที่ดินของวัดจะเป็นพื้นที่ผืนเดียวกันหมดเลย ไม่มีคลองอยู่ในนั้น แต่ชาวบ้านบอกว่ามีคลองอยู่ที่นี่มานานแล้ว แต่ในทางกฎหมาย ถ้าวัดจะถมที่ดินก็ทำได้ เพราะมันเป็นที่ดินของเขา ผู้การได้พยายามระดมคนมีความรู้มาช่วยดูแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผล เราใช้ทั้งทนายความและไปอ้อนวอน คือ ทำมาหมดแล้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทหารไม่ได้ทอดทิ้งประชาชน เราพยายามหาช่องทางอื่นๆ ในการช่วยเหลืออยู่”
“เท่าที่คุย ตอนนี้ทางวัดก็ไม่ได้รับปากว่าจะต่อน้ำหรือเปิดคลองให้ชาวบ้าน คือในความเป็นจริงวัดจะไม่อนุญาตก็ได้ เพราะเป็นสิทธิของวัด แต่ในความคิดเห็นของผม ผมสงสารประชาชน พระควรต้องมีความเมตตามากกว่านี้ ถามว่าในความที่เป็นพระแล้วประชาชนเดือดร้อนมาพึ่งพิง ก็ควรจะช่วยเหลือ เพราะวัดและชุมชนควรจะพึ่งพาและอาศัยซึ่งกันและกัน
ส่วนประเด็นที่ชาวบ้านยังร้องเรียนว่าสงสัยและไม่สบายใจต่อการบริหารดูแลเงินงบประมาณต่างๆ ของทางวัดที่มีผู้บริจาคให้มาดูเหมือนจะไม่โปร่งใสบริสุทธิ์นั้น พันตรีเสริมพันธ์แสดงความคิดเห็นว่า
“เรื่องนี้มีคนร้องเรียนเยอะเหมือนกันว่าสงสัยวัดใช้เงินผิดวัตถุประสงค์หรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้เราไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเงินบริจาคไปแล้ว ส่วนวัดจะเอาใช้ผิดจุดประสงค์หรือเปล่า ก็ต้องให้ฝ่ายสงฆ์ตรวจสอบ เราทหารคงเข้าไปยุ่งเกี่ยวตรงนี้ไม่ได้”
ด้าน “ศิริพร กาญจนกาศ” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บางขนุน ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ในเขตบริเวณวัดโดยตรง ได้พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า
“ถามว่าเรารับรู้ความเดือดร้อนชาวบ้านไหม เรารู้ มันเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน และเราแก้ไขอะไรไม่ได้ ในเมื่อเจ้าของที่คือ วัดไม่อนุญาต โดยให้เหตุผลว่ากำลังปรับปรุงสถานที่ให้เจริญ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เราช่วยได้แค่ทำหน้าที่ประสานหน่วยงานให้ ช่วยร้องเรียน หรือช่วยเรื่องระบบราชการ แต่สุดท้ายหน่วยงานก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ตราบใดที่เจ้าของที่ไม่อนุญาต “
เชื่อว่าหากวัดแก้วฟ้ายังคงอ้างแต่กฎหมาย ไม่มีความประนีประนอมและไม่เน้นสร้างความปรองดองกับคนในพื้นที่ ปัญหาคงยากจะจบลงง่ายๆ ดีไม่ดีอาจจะบานปลายจนสร้างความเสื่อมเสียให้แก่วัดและศาสนาก็เป็นได้
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
