xs
xsm
sm
md
lg

สอบพบ 3 โจรใต้ซุ่มยิง “ส.ต.ต.อัสมิง ยูโซ๊ะ” ก่อคดีความมั่นคงเพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - คืบหน้าเหตุโจรใต้ลอบยิง “ส.ต.ต.อัสมิง ยูโซ๊ะ” ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ก่อเหตุขณะเดินทางไปเยี่ยมญาติในเทศกาลฮารีรายอ ตำรวจอึ้ง! คนร้ายทั้ง 3 ราย ล้วนแล้วแต่มีประวัติในคดีความมั่นคงหลายคดี พบใช้นาฬิการุ่นเดียวกับหน่วยคอมมอนโดในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อบอกฝ่ายอย่างชัดเจนในการปฏิบัติการ

จากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีพี่น้องชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นชนกลุ่มใหญ่ ได้ปฏิบัติภารกิจตามหลักศาสนาด้วยการละหมาดในวันตรุษอีฎิ้ลฟิตรี หลังจากการถือศีลอดตลอดเดือนรอมฎอน สิ้นสุดลง โดยส.ต.ต.อัสมิง ยูโซ๊ะ อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด สภ.โกตาบารู อ.อรามัน จ.ยะลา ซึ่งพื้นเพเป็นชาว ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้เดินทางกลับบ้านเกิด พร้อมกับภรรยา และลูก เพื่อไปเยี่ยมญาติตามประเพณีวัฒนธรรมที่ถือปฏิบัติกันมาของพี่น้องมุสลิม ในพื้นที่บ้านสะโลว์ ม.7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

หลังจากถึงบ้านของตนเองแล้ว ก็ได้เตรียมตัวออกไปพบปะญาติๆ จึงได้ขับรถออกจากบ้านพัก ได้มีกลุ่มคนร้ายซึ่งเชื่อว่า น่าจะมีกลุ่มแนวร่วมที่เฝ้าสังเกตการณ์ดูพฤติกรรมของ ส.ต.ต.อัสมิง เพื่อทำการชี้เป้า โดยเมื่อ ส.ต.ต.อัสมิง ขับรถยนต์ถึงที่เกิดเหตุบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน ห่างจากสถานีรถไฟบ้านสโลว์ ประมาณ 100 เมตร ได้มีกลุ่มคนร้าย จำนวน 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ประกบรถยนต์เก๋งของ ส.ต.ต.อัสมิง จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายทางด้านขวาของตัวรถได้ใช้อาวุธปืนระดมยิงใส่รถยนต์ของ ส.ต.ต.อัสมิง หมายเด็ดชีวิต

แต่ ส.ต.ต.อัสมิง กัดฟันต่อสู้กับคนร้ายโดยได้ขับรถยนต์เก๋งเบียดรถจักรยานยนต์ของคนร้าย จนเสียหลักล้มลง จากนั้น ส.ต.ต.อัสมิง ยังคงมีสติดี ข่มความประหม่าได้ลงจากรถยนต์ พร้อมเปิดประตูรถด้านหลัง แล้วใช้อาวุธปืนยาวเอ็ม 16 มายิงต่อสู้กับคนร้ายที่อยู่บริเวณด้านหลังรถ จนกระสุนปืนถูกคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย บริเวณซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้าน จากนั้น ส.ต.ต.อัสมิง ก็หมดแรงล้มลงเนื่องจากถูกยิงที่ลำตัวจำนวนหลายนัด

เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.15133 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 นำโดย จ.ส.อ.ชัยณรงค์ วงษารัตน์ พร้อมพวกอีก 3 นาย ได้ยินเสียงปืนก็วิ่งเข้ามาช่วยเหลือ จึงถูกโจรอีก 2 คน ที่อยู่หลบอยู่ข้างรถยนต์ยิงใส่ และดวลปืนกันในระยะประชิด ทำให้ จ.ส.อ.ชัยณรงค์ เสียชีวิต พร้อมโจรทันทีอีกหนึ่งศพ โจรอีกคนจึงวิ่งเข้าไปหลังโรงรถยนต์ประชาชนใกล้ๆ กันจึงถูกทหารวิสามัญอีกศพ รวมเป็น 3 ศพ ส่วนคนร้ายอีกคนสามารถหลบหนีไปได้

โดยภายหลังจากเกิดเหตุ ส.ต.ต.อัสมิง ได้ถูกชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลรือเสาะเป็นการด่วน ก่อนที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้จะส่งเฮลิคอปเตอร์ไปรับตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลยะลา ซึ่งล่าสุด ส.ต.ต.อัสมิง ต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 2 ครั้ง เพื่อนำหัวกระสุนที่ถูกยิงบริเวณลำตัวออกมาจากร่างกาย และอาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว แต่แพทย์ยังคงให้การดูแลอย่างใกล้ชิดภายในห้องไอซียู โรงพยาบาลยะลา

สิ่งที่ต้องตะลึงต่อมาคือ คนร้ายทั้ง 3 ราย ล้วนแล้วแต่มีประวัติในคดีความมั่นคงหลายคดี ทั้งเคยถูกจับ และปล่อยตัว ทั้งยังเคยหลบหนีการประกันตัวมาแล้ว คือ
1.นายซัฟวาน สาและ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 41/1 ม.4 อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุความรุนแรงระดับปฏิบัติการ เคยร่วมก่อเหตุปล้นปืนกองร้อยทหารราบที่ 15121 เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2554 และเกี่ยวข้องกับคดีอื่นๆ อีกหลายคดี ปัจจุบันอยู่ระหว่างหลบหนีการประกันตัว
2.นายอับดุลรอพา สาและรู อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 111 ม.4 ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา เป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุความรุนแรงระดับปฏิบัติการ เป็นบุตรเขยอดีตอิหม่ามยะผา กาเซ็ง เคยร่วมก่อเหตุลอบยิงตำรวจสถานีตำรวจภูธรรือเสาะ เสียชีวิต 4 ศพ (ภาพจาก CCTV) และเคยได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ (ผลการตรวจ DNA ) และคดีอื่นๆ อีกหลายคดี
3 นายมะยุดิง หะยีสะนิ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 81/4 ม.4 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุความรุนแรงระดับปฏิบัติการ เคยร่วมก่อเหตุในพื้นที่หลายเหตุการณ์

สำหรับอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้จำนวน 2 กระบอก ในที่เกิดเหตุ
1.อาวุธปืนกลมือ (UZI) จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน จำนวน 2 ซอง และกระสุน จำนวน 84 นัด จากการตรวจสอบเป็นอาวุธปืนที่คนร้ายปล้นไปจากฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารราบ ที่ 15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 (เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2554)

2.อาวุธปืนพกขนาด 11 มิลลิเมตร จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน จำนวน 2 ซอง และกระสุน จำนวน 16 นัด จากการตรวจสอบแล้วเป็นของ ส.ต.อ.อนุวัฒน์ ขุนรันต์ สังกัดสถานีตำรวจภูธรรือเสาะ ซึ่งถูกคนร้ายซุ่มยิงเสียชีวิต 4 ศพ (เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2556) และนำอาวุธปืนพกของผู้เสียชีวิตไปด้วย

นอกจากนี้ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ยังได้วิเคราะห์หลักฐานที่ตรวจยึดได้จากตัวคนร้ายที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย คือ นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ TIMAX รุ่น EXPEDITION

โดยหน่วยงานความมั่นคงได้ให้ข้อมูลว่า นาฬิกายี่ห้อ และรุ่นดังกล่าวนั้น เคยถูกใช้เป็นสัญญาณบอกฝ่ายของผู้ก่อการร้ายที่ผ่านการฝึกระดับคอมมานโด (komando) ซึ่งในรุ่นแรกๆ จะเป็นสมาชิกแนวร่วมที่เป็นนักศึกษาไปเรียนที่ประเทศอินโดนีเซีย แล้วเข้ารับการฝึกที่เมืองบันดุง ทางตอนใต้ของเกาะชวา ต่อมา ฝ่ายการทหารของ BRN Co-ordinate ได้นำหลักสูตร Komando มาฝึกให้แก่สมาชิกกลุ่มก่อเหตุความรุนแรงในประเทศไทย โดยจะคัดเลือกสมาชิกที่ผ่านการฝึก RKK มาแล้วเพื่อทำงานด้านการทหารโดยเฉพาะ และมีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุมการปฏิบัติของสมาชิก RKK ปฏิบัติงานที่สูงขึ้น เป้าหมายที่ใหญ่ และสูงค่าครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น นอกจากนั้น ยังปฏิบัติงานข้ามเขตรับผิดชอบกัน

ในครั้งนี้คนร้ายที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทั้ง 3 ราย สวมใส่นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ รุ่นเดียวกันทั้งหมด จึงเป็นไปได้ว่ากลุ่มคนร้ายดังกล่าวมีการสวมใส่เพื่อบอกฝ่ายกันอย่างชัดเจนในการปฏิบัติการ

สิ่งที่เป็นน่ากังวลหลังจากนี้คือ ครอบครัวของ ส.ต.ต.อัสมิง ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ต่อสู้กับกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อตนเอง และประชาชนจะดำเนินชีวิตในพื้นที่อย่างไรต่อไป เนื่องจากพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ถือเป็นพื้นที่สีแดงเข้มที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายมาอย่างต่อเนื่อง ผู้เป็นบิดา และครอบครัวของ ส.ต.ต.อัสมิง ยังคงเป็นกังวล และเป็นห่วงในระยะเวลาหลังจากนี้ต่อไป







 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น