ศูนย์ข่าวภูมิภาค - แหล่งข่าวความมั่นคงเผย “มะแซ อูเซ็ง” แกนนำ BRN ค่าหัว 3 ล้านบาท นัดประชุม 9 แกนนำในมัสยิดประเทศมาเลเซีย เตรียมสั่งป่วนพื้นที่ชายแดนใต้อีกระลอก โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจงเหตุปะทะเดือดที่รือเสาะโจรใต้ดับ 3 เผย 1 ในนั้นเป็นเขย"อิหม่ามยะผา กาเซ็ง" ยันเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสีย มทภ.4 กำชับทุกหน่วยเพิ่มความระวัง เน้นใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้น ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ สรุปสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ช่วงเดือนรอมฎอนตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่า เกิดเหตุการณ์รุนแรงทั้งสิ้น 77 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 125 ราย เสียชีวิต 33 ราย
วานนี้ (29 ก.ค.) แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รายหนึ่งแจ้งว่า พบความเคลื่อนไหวของนายมะแซ อูเซ็ง แกนนำ BRN ค่าหัว 3,000,000 บาท ได้เรียกประชุมสมาชิกแกนนำ 9 คน ซึ่งเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยประชุมที่มัสยิดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ปาเสมัส รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยได้สั่งการให้ใช้กองกำลัง RKK ปฏิบัติการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในรูปแบบแบบการยิงโจมตี การลอบวางระเบิด และการก่อกวน
สำหรับในพื้นที่ จ.ยะลา ให้ปฏิบัติการเขตรอบนอก เขต อ.เมืองยะลา และ จ.ปัตตานีให้ปฏิบัติการในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีและเขตรอบนอก จ.นราธิวาสให้ปฏิบัติการในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส และอำเภอรอบนอก และแบ่งกำลังกลุ่มปฏิบัติการ RKK และสนับสนุนกำลังปอมูดอที่จะใช้ปฏิบัติการจังหวัดละ 50 คน รวมสมาชิกการปฏิบัติฝ่ายตรงข้ามในครั้งนี้ 150 คน โดยเน้นการปฏิบัติก่อเหตุในเวลาไล่เลี่ยกันทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับกลุ่มแกนนำฝ่ายตรงข้ามที่ยังทรงอิทธิพล และยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ ประกอบด้วย 1.นายสะแปอิง บาซอ ค่าหัว 10 ล้านบาท 2.นายเจ๊ะกูแม ปูเต๊ะ ค่าหัว 5 ล้านบาท 3.นายมะแซ อุเซ็ง ค่าหัว 3 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ปะทะกับกลุ่มคนร้าย จนทำให้ถูกฝ่ายเจ้าหน้าที่วิสามัญ 3 ศพในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อเที่ยงวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ได้สั่งกำชับไปยัง สภ.ทั้ง 19 สถานีในพื้นที่ 13 อำเภอ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะจุดล่อแหลมและเกิดเหตุขึ้นบ่อยครั้ง ให้ตั้งจุดตรวจลอยเป็นระยะๆ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นับถือศาสนาอิสลาม ให้เพิ่มความระมัดระวังและอย่าประมาท ขณะเดินทางกลับบ้านพักไปร่วมงานเทศกาลฮารีรายอกับครอบครัว และขณะที่ประกอบศาสนกิจในมัสยิด ก็ให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นกรณี เนื่องจากกลุ่มคนร้ายพยายามหาช่องโหว่และโอกาสที่จะลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ และขอให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ส.ต.ต.อัสมิง ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.โกตาบารู จ.ยะลา เป็นบทเรียน
**แฉ 1 ใน 3 โจรใต้ถูกวิเป็นเขย"อิหม่ามยะผา"
ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยกรณีเจ้าหน้าที่ปะทะกับกลุ่มคนร้ายจนถูกฝ่ายเจ้าหน้าที่วิสามัญ 3 ศพในพื้นที่ อ.รือเสาะว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ จ.ส.อ.ชัยณรงค์ วงศ์ษารัตน์ สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 103 หมู่ 2 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่เสียชีวิต และ ส.ต.ต.อาสมิง ยูโซ๊ะ สังกัด สภ.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 161/1 หมู่ 7 อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
สำหรับรายชื่อผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 3 คน พร้อมยึดอาวุธปืนได้ 2 กระบอกคือ 1.นายซัฟวาน สาและ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ 4 อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พฤติกรรมเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ เคยร่วมก่อเหตุปล้นปืนกองร้อยทหารราบที่ 15121 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.54 และเกี่ยวข้องกับคดีอื่นๆ อีกหลายคดี ปัจจุบัน อยู่ระหว่างหลบหนีการประกันตัว
2.นายอับดุลรอพา สาและรู อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 111 หมู่ 4 ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา พฤติกรรมเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ เป็นบุตรเขยอดีตอิหม่ามยะผา กาเซ็ง ที่เคยร่วมก่อเหตุลอบยิงตำรวจ สภ.รือเสาะ เสียชีวิต 4 ศพ และเคยได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ และคดีอื่นๆ อีกหลายคดี
3.นายมะยุดิง หะยีสะนิ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 81/4 หมู่ 4 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พฤติกรรมเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ เคยร่วมก่อเหตุในพื้นที่หลายเหตุการณ์ ส่วนอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ 2 กระบอกคืออาวุธปืนกลมือ (UZI)จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 2 ซอง และกระสุน 84 นัด
จากการตรวจสอบเป็นอาวุธปืนที่คนร้ายปล้นไปจากฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารราบที่ 15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.54 อาวุธปืนพกขนาด 11 มม.จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน จำนวน 2 ซองและกระสุน 16 นัด จากการตรวจสอบแล้วเป็นของ ส.ต.อ.อนุวัฒน์ ขุนรันต์ สังกัด สภ.รือเสาะ ซึ่งถูกคนร้ายซุ่มยิงเสียชีวิต 4 ศพเมื่อวันที่ 16 ส.ค.56 และนำอาวุธปืนพกของผู้เสียชีวิตไปด้วย
**มทภ.4 กำชับใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้น
พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวอีกว่า ผล.ทบ.ได้แสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อการจากไปของ จ.ส.อ.ชัยณรงค์ วงศ์ษารัตน์ ซึ่งได้ทำหน้าที่ด้วยความเสียสละ กระทั่งนาทีสุดท้ายของชีวิต พร้อมกับขอชื่นชมการตัดสินใจเข้าแก้ปัญหา และยกย่องในความเสียสละ กล้าหาญ ในการเข้าแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ โดยกองทัพบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดูแลด้านสวัสดิการ และสิทธิกำลังพลของผู้เสียสละอย่างเต็มที่ โดยกำหนดจัดส่งศพไปบำเพ็ญกุศล ณ ภูมิลำเนาในวันที่ 30 ก.ค.57 เวลา 10.00 น. ณ สนามบินบ่อทอง ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
"การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกคนยึดมั่นในหลักกฎหมายที่เป็นธรรม โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก และรู้สึกเสียใจต่อญาติ และครอบครัวของผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งต้องสูญเสียบุคคลในครอบครัวไปเช่นเดียวกัน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมีเจตนาใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ก่อน เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อปกป้องตนเองตามหน้าที่ ตามขั้นตอนของกฎหมาย และกฎการปะทะ ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทุกคนยึดถือ และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเสมอมา"
พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งกำชับให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง และปฏิบัติงานเชิงรุกในการปฏิบัติหน้าที่ และป้องกันการตอบโต้ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง สำหรับกลุ่มบุคคลที่ยังคงเคลื่อนไหวสร้างสถานการณ์ และสร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่พร้อมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายตามโครงการพาคนกลับบ้าน โดยยืนยันว่า ทุกคนจะได้รับการปฏิบัติด้วยความเสมอภาค และเป็นธรรม
**สรุปเหตุไฟใต้ช่วงรอมฎอน 77 ครั้งตาย 33
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลา ด้วยว่า ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (DeepSouthWatch ; DSW) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้มีรายงานสรุปสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอน ประจำปี 2557 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2547 ถึงวันที่ 27 กรกฎาคม 2557 เกิดเหตุความไม่สงบรวมทั้งสิ้น 77 เหตุการณ์แยกเป็นเหตุลอบยิง 45 เหตุการณ์ เหตุระเบิด 22 เหตุการณ์ เหตุวางเพลิง 1 เหตุการณ์ และอื่นๆ อีก 9 เหตุการณ์
มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บแยกเป็นพื้นที่ จ.นราธิวาส เสียชีวิต 8 รายบาดเจ็บ 16 ราย พื้นที่ จ.ปัตตานี เสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บ 51 ราย พื้นที่ จ.ยะลา เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 58 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 33 ราย ได้รับบาดเจ็บอีก 125 ราย รวมผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งสิ้น 158 ราย
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับสถิติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอน ปี 2557 เกิดเหตุการณ์ทั้งหมด 86 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 134 คน พบว่าสถิติการเกิดเหตุการณ์รุนแรงลดลง แต่กลับมียอดผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น