ยะลา - ผู้ว่าฯ ยะลา ลงพื้นที่สอบเหตุคาร์บอมบ์กลางเมืองเบตง กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มความระวังหวั่นเกิดเหตุซ้ำสอง เบื้องต้นทราบว่ามีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 3 คน นำรถคาร์บอมบ์มาจอดหน้าโรงแรมที่เกิดเหตุ ก่อนนั่งรถตู้หลบหนี ด้านเจ้าหน้าที่นำกำลังพลสืบเบาะแสคนร้ายจนเกิดการปะทะกับกลุ่มแนวร่วมส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย หลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวมาเลย์ยกเลิกการจองห้องพักจำนวนมาก เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์
หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ เมื่อวานที่ผ่านมา (25 ก.ค.) ที่หน้าโรงแรมฮอลิเดย์ ฮิลล์ เลขที่ 50 ถ.ดำรงภักดี ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ. นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.เบตง เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ และร่วมประชุมติดตามความคืบหน้า ทั้งพยานหลักฐาน กล้องวงจรปิด เพราะนึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่ อ.เบตง ในครั้งนี้ ในเบื้องต้นได้รับรายงานมีประชาชนได้รับบาดเจ็บกว่า 36 ราย เสียชีวิต 2 ราย มีทรัพย์สินเสียได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งขณะที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ในขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน ได้ร่วมบูรณาการในการคลี่คลายสถานการณ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด และให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำสอง ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ได้มีการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันเหตุในพื้นที่ อ.เบตง มาโดยตลอด ในเบื้องต้น ขณะนี้ทราบว่ารถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุคาร์บอมบ์นั้นเป็นรถยนต์ยี่ห้อ MAZDA ทะเบียนปลอม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่า รถดังกล่าวได้เข้าไปในพื้นที่ อ.เบตงได้อย่างไร ซึ่งหากมองตามเส้นทางแล้ว มีทั้งจุดตรวจ จุดสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารหลายจุดตรวจ
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ อ.เบตง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางชายแดน ที่ทางนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย มาท่องเที่ยวเป็นประจำ ซึ่งในช่วงเวลานี้เป็นช่วงถือศีลอดของพี่น้องชาวไทยมุสลิม และอีกไม่กี่วันก็จะถึงช่วงตรุษอิดิ้ลฟิตรี (รายอ ของพี่น้องมุสลิม) ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย มีการจองห้องพักเต็มหมด เพื่อร่วมเฉลิมฉลองตรุษอิดิ้ลฟิตรี เมื่อมาเกิดเหตุเช่นนี้ ทุกฝ่ายต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น และสร้างความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งเร่งเยียวยาให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้
ส่วนทางด้านการติดตามคนร้ายภายหลังเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามกลุ่มคนร้าย คาดว่ามี จำนวน 3 คน โดยก่อนที่จะก่อเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เบาะแสกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้โดยใช้รถยนต์ตู้บรรทุกระเบิดคาร์บอมบ์ มาจอดหน้าโรงแรมฮอลิเดย์ฮิอล์ กลางเมืองเบตง จ.ยะลา หลังตรวจภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดพบว่า คนร้ายนำรถตู้ทะเบียนป้ายเหลือง 10-101 9 ปัตตานี ขับมาจอดในลักษณะล็อคที่หน้าโรงแรมฮอลิเดย์ฮิอล์ ก่อนเปิดทางให้รถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีขาว ทะเบียน บค 8594 เบตง ซึ่งเป็นป้ายปลอม บรรทุกระเบิดเข้าจอดแทนแล้วเกิดระเบิดขึ้น
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดปรากฏชัดว่า ก่อนเกิดระเบิดเมื่อเวลาประมาณ 16.40 น. วันศุกร์ที่ 25 ก.ค.57 กลุ่มคนร้ายนำรถตู้โดยสารสีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง 10-1019 ไปจอดกันพื้นที่ไว้ก่อน เพื่อให้รถกระบะคันที่บรรทุกระเบิดเข้าไปจอดแทนที่ จากนั้นจึงเลื่อนรถตู้ดังกล่าวออกไป โดยรับคนร้ายที่ขับรถกระบะบรรทุกระเบิดหลบหนีไปด้วย ต่อมา ประมาณ 15 นาทีจึงเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยรถคาร์บอมบ์นั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นสรุปว่า เป็นรถกระบะแบบตอนครึ่ง ยี่ห้อมาสด้า รุ่นไฟเตอร์ 2500 ซีซี ติดป้ายทะเบียน บค 8594 เบตง ซึ่งเป็นทะเบียนปลอม (ไม่ใช่ป้ายทะเบียนของรถกระบะคันนี้) คาดว่าอาจเป็นรถคันเดียวกับที่คนร้ายปล้นไปจากผู้เสียหายในพื้นที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ด้านรถตู้โดยสารที่คนร้ายนำไปจอดล็อกพื้นที่ให้รถกระบะคาร์บอมบ์นั้น ต่อมา พบถูกจอดทิ้งไว้ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) บริเวณพื้นที่บ้าน กม.36 รอยต่อ อ.ธารโต จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่า มีวัยรุ่น 3-4 คน ขับรถมาจอดทิ้งไว้ แล้วหลบหนีไป ซึ่งรถตู้คันดังกล่าวเป็นรถตู้โดยสารสายยะลา-ดอนยาง-หาดใหญ่ หมายเลขทะเบียน 10-1019 เลขข้างรถ 83 เพิ่งมีเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายปล้นไปในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 06.30 น. เหตุเกิดที่บ้านบาโจ หมู่ 2 ต.ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา โดยคนร้ายจับคนขับรถตู้มัดมือมัดเท้า ปล่อยทิ้งไว้ข้างทาง ก่อนจะนำรถไปปฏิบัติการที่ อ.เบตง
และเมื่อเวลา 22.05 น. ของวันเดียวกัน (25 ก.ค.) พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผู้กำกับการ สภ.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ได้รับแจ้งจากชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ลำใหม่ ว่า ขณะเข้าไปสืบสวนติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการปล้นรถตู้โดยสารซึ่งเชื่อมโยงกับเหตุคาร์บอมบ์ที่ อ.เบตง นั้น ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงถล่มใส่ และเกิดการปะทะกับกลุ่มคนร้ายที่บ้านบาโจ หมู่ 2 ต.ยะลา อ.เมืองยะลา ห่างจากสามแยกบ้านเนียง หมู่ 3 ต.เปาะเส้ง อ.เมืองยะลา ประมาณ 800 เมตร
หลังรับแจ้ง กลุ่มคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงถล่มใส่ และเกิดการปะทะ พ.ต.อ.พัชรพล ได้นำกำลังตำรวจ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปสนับสนุน ปรากฏว่า คนร้ายได้ยิงเอ็ม 79 อีก 1 ลูก และได้เกิดการยิงปะทะกันอีกระลอก หลังเสียงปืนสงบ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายซัมรี สากี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/2 หมู่ 3 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา ถูกสะเก็ดระเบิดเอ็ม 79 ขณะเดินออกจากมัสยิดใกล้จุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
ขณะที่บรรยากาศในพื้นที่ อ.เบตง หลังเกิดเหตุในช่วงเช้าของวันที่ 26 ก.ค.นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ ผวาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแห่ยกเลิกจองห้องพักช่วงรายอซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจองห้องพักกว่า 4,000 ห้อง เต็มหมด สำหรับ อ.เบตง เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ ข้ามพรมแดนมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งในช่วงตรุษอิดิ้ลฟิตรี หรือเทศกาลรายอ ของพี่น้องมุสลิมหลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอนในต้นสัปดาห์หน้า ปรากฏว่า นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย จองห้องพักเต็มหมดแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุรุนแรงขึ้นกลางเมือง ก็ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น และสร้างความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งเร่งเยียวยาให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้โดยเร็วที่สุด