ศูนย์ข่าวภูเก็ต - มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จับมือมหาวิทยาลัยนานาชาติเจจู สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ลงนามความร่วมมือโครงการแลกเปลี่ยนภาษา และวัฒนธรรมไทยแก่นักศึกษาจีน และเกาหลี
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ห้องพรหมเทพ ชั้น 3 ตึกอำนวยการ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือ โครงการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมไทยแก่นักศึกษาจีน และเกาหลี ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดย ผศ.ดร.ประภา กาหยี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กับนายปาร์ค จูฮุน อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติเจจู สาธารณรัฐเกาหลีใต้ เพื่อให้บริการวิชาการด้านศิลปวัฒนธรรม และภาษาแก่นักศึกษาต่างชาติ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัย และหน่วยงานต่างชาติ ตลอดจนเพื่อให้นักศึกษาต่างชาติเข้าใจวัฒนธรรมไทย และมีส่วนร่วมในการสืบทอดวัฒนธรรมทางภาษาของไทย มีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต คณบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยเจจู และคณะนักศึกษา เข้าร่วมเป็นเกียรติ
ผศ.ดร.ประภา เปิดเผยว่า จากการที่จังหวัดภูเก็ต เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ITOP FORUM ครั้งที่ 18 เพื่อหารือการพัฒนาความร่วมมือในการส่งเสริม และพัฒนาด้านการท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อมตลอดจนการป้องกัน และช่วยเหลือด้านอุบัติภัยต่างๆ จากธรรมชาติทางทะเล ประกอบด้วย เมืองสมาชิกซึ่งเป็นเกาะจาก 11 เมือง 11 ประเทศ ทางจังหวัดภูเก็ต ได้เชิญหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องประชุมเพื่อจัดเตรียมความพร้อม และในการนี้ทางจังหวัดฯ ก็มีความประสงค์ให้สถาบันอุดมศึกษาจัดกิจกรรม หรือโครงการ (Joint Projects) เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางวิชาการ
“ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จึงได้จัดโครงการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทางด้านภาษา และวัฒนธรรมต่อกัน โดยศูนย์ภาษาร่วมกับงานวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งมีกลุ่มประเทศสมาชิกที่สนใจ ได้แก่ อาจารย์ และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนานาชาติเจจู จากประเทศสาธารณรัฐเกาหลีใต้ และมหาวิทยาลัยไห่หนาน จากจีน ซึ่งมีนักศึกษาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 5 คน และนักศึกษาจากประเทศสาธารณรัฐเกาหลีใต้ จำนวน 15 คน เข้าร่วมโครงการ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยมีกิจกรรมแลกเปลี่ยน ประกอบด้วย การเรียนรู้เรื่องอาหาร การเรียนรู้ด้านศิลปะการแสดง และการเรียนรู้มวยไทย” ผศ.ดร.ประภา กล่าวในที่สุด