นราธิวาส - ผู้ว่าฯ นราฯ ย้ำเจ้าหน้าที่เร่งควบคุมไฟป่า หลังเสียหายแล้วกว่า 90 ไร่ เบื้องต้นขณะนี้การขุดน้ำใต้ดินเพื่อนำมาใช้ดับไฟยังล้มเหลว โดยขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ทั้งหมด พร้อมเรียกประชุมด่วนถกแนวทางแก้ปัญหา เผยหลังวันที่ 20 ก.ค. หากยังไม่ดับเตรียมขอฝนหลวงช่วย เบื้องต้นทราบผู้บุกรุกแล้วเตรียมออกหมายดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (17 ก.ค.) นายณัฐพงค์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการร่วมบินตรวจสอบความเสียหายจากเหตุไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ซึ่งอยู่ระหว่างรอยต่อของ อ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงปาดี และ อ.ตากใบ จากการบินสำรวจทางอากาศพบว่า บริเวณที่เกิดไฟไหม้ยังคงมีควันไฟลอยจากผิวดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำ อีกทั้งน้ำที่อยู่ใต้ผิวดินอยู่ลึกกว่า 3 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ยากลำบาก ในเบื้องต้นจึงจะต้องมีการขุดหาแหล่งน้ำ และหาจุดปล่อยน้ำเพื่อให้น้ำเข้าไปอยู่ใต้ผิวดินป้องกันการลุกลามของไฟเข้าไปพื้นที่ด้านใน
หลังจากบินสำรวจแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางในการควบคุมไฟป่าที่เกิดขึ้นครั้งนี้ โดยในที่ประชุมมีการสรุปในขั้นต้นว่าเหตุไฟป่าเกิดจากการเข้าบุกรุกพื้นที่ของชาวบ้าน มีการแผ้วถางป่า และจุดไฟเผ่าจุดลุกลามเข้าในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบชื่อผู้ที่บุกรุกแล้ว และเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมาย สำหรับพื้นที่ที่เกิดไฟป่าครั้งนี้แยกเป็นพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสียหาย 25 ไร่ และพื้นที่ที่กำลังพิสูจน์สิทธิเสียหายอีก 70 ไร่
นายณัฐพงค์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การควบคุมไฟป่าครั้งนี้ต้องใช้เวลาเนื่องจากในพื้นที่เองมีเศษวัชพืชที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่มาก ประกอบกับข้อจำกัดเกี่ยวกับแหล่งน้ำในพื้นที่ดังกล่าว โดยหลังจากวันที่ 20 ก.ค. หากยังไม่สามารถดับไฟได้จะมีการประสานขอฝนหลวงเข้ามาในพื้นที่ ทั้งนี้ ที่ต้องรอหลังวันที่ 20 ก.ค. เนื่องจากรอดูอิทธิพลพายุรามสูร ซึ่งอาจจะทำให้พื้นที่เกิดฝนตกติดต่อกันได้ระหว่างวันที่ 17-19 ก.ค. นี้