ชุมพร - แพทย์โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ แจงข่าวมั่วยุงสายพันธุ์ใหม่กัดเด็กนักเรียนหญิง ป.5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งจนอาการน้ำเหลืองพุพอง ป่วยขั้นโคม่า ยันไม่เป็นความจริง เผยเด็กป่วยเป็นไข้เลือดออก ต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด
จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวกรณีเด็กหญิงอายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ถูกยุงสายพันธุ์ใหม่กัดจนมีแผลผุพองน้ำเหลืองไหลทั่วตัว จนอาการป่วยอยู่ในโคม่า และใกล้เสียชีวิต ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความแตกตื่นให้แก่ผู้ปกครอง ครู นักเรียนและประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก
ล่าสุด วันนี้ (13 ก.ค.) พญ.ธีรวัน อุไพศิลปสถาพร แพทย์เจ้าของคนไข้ เปิดเผยว่า จากการตรวจเด็กหญิงอายุ 10 ปีดังกล่าว ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร เนื่องจากป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ล่าสุด อาการป่วยของเด็กดีขึ้นตามลำดับ แต่ก็ยังพบเลือดออกในสมองซึ่งเป็นอาการของไข้เลือดออกปกติ แต่ทั้งนี้ผู้ป่วยได้มีภาวะแทรกซ้อนของน้ำท่วมปอด ไต และตับที่ทำงานไม่เป็นปกติ ซึ่งต้องดูแลเป็นพิเศษเพื่อรักษาภาวะอาการแทรกซ้อนดังกล่าวให้คงที่ โดยขณะนี้เด็กพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกผ่าตัดใหม่ ชั้น 2 ห้องไอซียู ของ รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์
พญ.ธีรวัน เปิดเผยต่อว่า ส่วนที่มีข่าวว่าผู้ป่วยที่เข้ามารักษาในวันแรกนั้นมีอาการช็อก มีแผลเป็นจ้ำๆ และน้ำเหลืองไหลตามร่างกาย เนื่องจากถูกยุงสายพันธุ์ใหม่กัดนั้นไม่เป็นความจริง จึงอยากฝากเตือนไปยังประชาชนทั่วไปอย่าตระหนกต่อข่าวที่ออกไป แต่ให้ตระหนักในการป้องกันตนเองอย่าให้ยุงกัด ควรกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ในบ้าน นอกบ้านให้มากขึ้น จะป้องกันไข้เลือดออกได้ดีที่สุด
ขณะที่ นางรมิตา เกตุเลขวัต อายุ 35 ปี มารดาของเด็กหญิงคนดังกล่าว เปิดเผยว่า ลูกสาวตนมีอาการเป็นไข้ตัวร้อนเมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา และได้นำลูกสาวเข้ารักษาตัวที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ต่อมา พบว่าลูกสาวมีไข้สูงมาก และเมื่อแพทย์เจาะเลือดตรวจก็พบว่าเป็นไข้เลือดออก ต่อมาตนจึงได้ขอให้แพทย์ส่งตัวมารักษาตที่ รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพราะเป็นโรงพยาบาลของรัฐจะลดค่าใช้จ่ายได้มาก ส่วนที่มีข่าวออกไปว่าลูกสาวตนถูกส่งตัวมารักษาด้วยอาการหนักถึงขั้นช็อกต้องปั๊มหัวใจ และใส่เครื่องช่วยหายใจนั้นไม่เป็นความจริงตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด หลังตกเป็นข่าวทำให้ญาติๆ เพื่อนๆ ได้โทร.มาสอบถามกันจำนวนมากด้วยความห่วงใยว่าลูกสาวตนเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนเองก็ยืนยันว่า ลูกสาวยังมีชีวิตและยังรักษาตัวอยู่ โดยภาพรวมอาการดีขึ้นมากแล้ว