ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทัพเรือภาคที่ 3 จัดประชุมผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน จัดระเบียบพื้นที่สาธารณะทั้งหมด เพื่อความเป็นระเบียบ ปลอดภัย
วันนี้ (2 ก.ค.) ที่ห้องประชุมกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน มีผู้แทนจากมณฑลทหารบกที่ 41 ข้าราชการในสังกัดทัพเรือภาคที่ 3 หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามันร่วมประชุม
พล.ร.ท.ธราธร กล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้นโยบาย หลายข้อ ทำให้ประเทศไทยสู่ความสงบ ร่มเย็น ทางประธาน คสช.โดยเฉพาะทางผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบมานั้น ทัพเรือภาคที่ 3 ได้ดำเนินการสู่การปฏิบัติในการดูแลพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน และพื้นที่ในส่วนของ กอ.รมน.ส่วนแยกกองทัพเรือ ภูเก็ต พังงา โดยเฉพาะการจัดระเบียบพื้นที่ทางทะเล มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องทางทะเล การจอดเรือรอบพื้นที่ ท่าเรือต่างๆ เกาะแก่ง อุทยานแห่งชาติ และป่าไม้ ซึ่งทหารเรือมีหน้าที่กำกับดูแลตามคำสั่งที่ 64 ให้หน่วยงานต่างๆ เข้าทำการปราบปราม จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย ทรัพยากรป่าไม้ต่างๆ และอีกหลายเรื่อง รวมทั้งเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ การพนัน การละเมิดคำสั่ง คสช.จะนำนโยบายเหล่านั้นให้ท้องถิ่นช่วยกัน ประกอบกับขณะนี้มีประชาชนร้องเรียนว่า ไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรบางอย่างได้ในที่ดินสาธารณะ ที่ดินป่าไม้ ที่ดินอุทยาน ถูกบุกรุก ได้นำเรื่องนี้หารือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายพื้นที่ ได้เสนอแนะบางเรื่อง เช่น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง อยากให้มีความสงบร่มเย็นเกิดขึ้นในพื้นที่ เป็นต้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
พล.ร.ท.ธราธร กล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อทำให้พื้นที่ และเกี่ยวกับความมั่นคงเกิดความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว เพื่อนำสู่การปฏิบัติในการวางแผนจัดการร่วมกันในอนาคต การบริหารจัดการนำสู่การประเมินผลความก้าวหน้า มีความจำเป็นที่จะต้องจัดประชุม ต้องพบกันบ่อยๆ กับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยราชการ ต้องทำตัวชี้วัดด้านนี้ร่วมกันเพื่อคืนความสุขให้ประเทศไทย
ด้าน น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อทำงานร่วมกันในการจัดระเบียบพื้นที่ทั้งหมด โดยเฉพาะพื้นที่ป่าตองเป็นพื้นที่ที่ถูกร้องเรียนเยอะมากในหลายกรณีด้วยกัน ในฐานะนายกเทศมนตรี คิดว่าเป็นภาระหน้าที่ของเรา มารับฟังนโยบาย และทางปฏิบัติจะไปขับเคลื่อนให้ดีที่สุด ในปัญหาต่างๆ หลายเรื่องเริ่มคลี่คลาย เช่น การจัดระเบียบยึดครองพื้นที่สาธารณะ เป็นต้น บางส่วนไปรื้อแล้ว ยังมีบางส่วนที่ติดปัญหาข้อกฎหมาย ต้องขับเคลื่อนกัน โดยพื้นที่บางส่วนต้องให้หน่วยงานเจ้าท่า ที่ดินมาชี้แนวเขตของการบุกรุก เขตพื้นที่ส่วนบุคคล เขตสาธารณะ ทางเทศบาลเมืองป่าตองจะได้ไปรื้อในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งไม่หนักใจการทำงานตรงนี้ มองว่าทุกฝ่ายต้องแก้ปัญหาร่วมกัน
