xs
xsm
sm
md
lg

เผยเขื่อนกันคลื่นแก้ปัญหาไม่ได้ ที่ดินเกาะคอเขา จ.พังงา ถูกซัดหายแล้ว 20 ไร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พังงา - ปภ.พังงา เตือนมรสุมคลื่นลมแรง 22-25 มิถุนายน ขณะที่หัวหน้ารีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่เกาะคอเขา จ.พังงา ย้ำการทำเขื่อนกันคลื่นไม่สามารถป้องกันความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินได้ ขณะที่เกาะคอเขาที่ดินเอกสารสิทธิถูกคลื่นซัดหายไปแล้วกว่า 20 ไร่

นายสมเกียรติ อินทรคำ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยพังงา เปิดเผยว่า จากการพยากรณ์ลักษณะอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดพังงา จะมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 90 ของพื้นที่ ในวันที่ 22-23 มิถุนายน จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ในบริเวณ อ.ตะกั่วทุ่ง อ.ท้ายเหมือง อ.ตะกั่วป่า อ.คุระบุรี อ.กะปง อ.เมืองพังงา และ อ.ทับปุด ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน จะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงระหว่างวันที่ 22-25 มิ.ย.57

ขณะที่สภาพอากาศในจังหวัดพังงา ยังคงแปรปรวน ฝนตกหนักเป็นระยะ คลื่นลมในทะเลยังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น แต่เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่ขึ้นลงไม่สูงมากนัก ทำให้ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อแนวชายฝั่งทะเล จึงไม่เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน อาคาร ร้านค้า ตามแนวชายฝั่งดังเช่นเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน ทำให้ราษฎร และผู้ประกอบการสามารถสร้างแนวเขื่อนกันคลื่นริมชายหาดได้แล้ว เพื่อลดแรงกระแทกของคลื่นที่อาจเกิดขึ้นตลอดช่วงฤดูมรสุมนี้ ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน หรืออีกประมาณ 120 วัน ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า ปัญหาคลื่นลมแรงจะส่งผลกระทบ และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินราษฎรตามแนวชายหาดด้านทิศตะวันตกของ จ.พังงา มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ส่วนผู้ประกอบการอีกหลายรายบริเวณชายหาดเขาหลัก และเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า ยังคงชะลอการสร้างแนวเขื่อนป้องกันคลื่น เนื่องจากเห็นว่าอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งได้

ด้านนายสมชาย หันหวน หัวหน้าช่างรีสอร์ตแห่งหนึ่งบนเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า ยืนยันว่า ตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา ที่มีการสร้างเขื่อนป้องกันคลื่นตามแนวชายหาด พบว่าไม่สามารถป้องกันความเสียหายทรัพย์สิน และรีสอร์ตได้ แต่คลื่นในทะเลกลับสร้างความเสียหาย และกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมา เฉพาะเขื่อนริมชายหาดถูกคลื่นซัดเสียหายคิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 1.7 ล้านบาท และที่ดินของรีสอร์ตถูกน้ำกัดเซาะหายไปมากกว่า 9 ไร่ ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงพบว่า ที่ดินเอกชนตามเอกสารสิทธิริมชายหาดถูกน้ำกัดเซาะหายไปมากกว่า 20 ไร่ คิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 160 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแล และแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนด้วย
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น