xs
xsm
sm
md
lg

ครอบครัวนักโทษดิ่งตึกศาลทุ่งสงดับ พบรักษาการ ผบก.ภ.นครศรีฯ ขอความเป็นธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - มารดา และครอบครัวของนักโทษคดียาเสพติดที่โดดตึกศาลทุ่งสงเสียชีวิตเข้าพบรักษาการ ผบก.ภ.นครศรีฯ หลังจากแห่ศพประท้วงวานนี้ เผยล่าสุด ได้เตรียมตั้ง คกก.สอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ที่จับกุม รวมทั้งเตรียมคำสั่งย้ายออกจากพื้นที่อำเภอทุ่งใหญ่ เพื่อลดแรงเสียดทาน ด้านหลานผู้ตายเผยถูกเรียกเงิน 5 หมื่น เพื่อแลกต่อการปล่อยตัว

วันนี้ (20 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช หลังจากที่ พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท รองจเรตำรวจ ได้เดินทางเข้ารับตำแหน่ง รักษาราชการ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้เพียง 2 ชม. ได้โทรศัพท์เชิญครอบครัวของนายสุรชัย เจษฎารมย์ นักโทษที่กระโดดตึกศาลจังหวัดทุ่งสงเสียชีวิต หลังจากที่ศาลได้มีคำพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับ 4 แสนบาท เมื่อ 4 วันก่อน เพื่อมาพบ และหารือถึงข้อเรียกร้องต่างๆ รวมทั้งรับฟังข้อร้องเรียน และข้อสรุปในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ หลังจากวานนี้ญาติของนายสุรชัย ได้นำศพของนายสุรชัย ออกเรียกร้องขอความเป็นธรรมหลายจุด

โดยที่หน้า บก.ภ.นครศรีธรรมราช ญาติๆ ได้ช่วยกันอุ้มนางเพิ่ม เจษฎารมย์ อายุ 79 ปี มารดาของนายสุรชัย เจษฎารมย์ นักโทษที่กระโดดตึกศาลทุ่งสง นครศรีธรรมราชจนเสียชีวิต ที่อยู่ในสภาพไม่สามารถเดินได้ด้วยตัวเองไปพบกับ พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช หลังจากที่นางเพิ่ม ต้องการที่จะมารับฟัง และเรียกร้องความเป็นธรรมแก่ครอบครัวที่อยู่ในสภาพลำบากอย่างมาก

ขณะที่ตัวแทนครอบครัวนายสุรชัย ได้ยืนยันข้อเรียกร้องต่อรักษาราชการผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ให้ปลดอาวุธอาสาสมัครตำรวจที่เกี่ยวข้องในการจับกุม เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัย รวมทั้งให้ย้าย พ.ต.ท.ก่อเกียรติ ทองนุ่น สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.ทุ่งใหญ่ ออกจากพื้นที่ทันที เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัยของครอบครัวผู้ร้อง รวมทั้งเป็นการลดความตึงเครียดในพื้นที่

นายปิยะณัฐ พรหมทอง อายุ 25 ปี หลานชายของนายสุรชัย ได้เล่าให้ พล.ต.ต.เทศา ฟังโดยละเอียดถึงขั้นตอนการจับกุมว่า ได้มีการตรวจค้นรถจักรยานยนต์ รวมทั้งค้นตัวของน้าชาย และตนเอง ไม่พบสิ่งของใดๆ ที่ผิดกฎหมาย และได้ปล่อยตัวไปแล้ว แต่เมื่อออกมาจากจุดตรวจได้เพียงไม่ถึง 20 เมตร ได้เรียกให้กลับมาพร้อมทั้งบอกว่าพบของกลางแล้ว จากนั้นจึงถูกนำไปตรวจปัสสาวะก็ไม่พบว่าเป็นสีม่วงทั้ง 2 คน

“หลังจากนั้นจึงถูกคุมตัวไปที่โรงพัก โดยได้ปล่อยตัวตนเองไป และมีการเรียกร้องเงิน จำนวน 5 หมื่นบาท เพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดี แต่ไม่มีเงิน นายสุรชัย หรือน้าใหญ่จึงต้องถูกดำเนินคดีส่วนผมเขาปล่อยตัว”

ขณะที่ญาติระบุว่า สมาชิกในครอบครัวต้องวิ่งไปเงินกู้เพื่อมาประกันตัว แต่ไม่สามารถส่งเงินต้น และดอกเบี้ยได้ทัน ทำให้ต้องถอนเงินประกันคืน และให้น้าไปติดคุกแทนจนมีคำพิพากษา ขณะที่นายสุรชัย ได้เขียนจดหมายมาบอกครอบครัวแล้วว่า พร้อมที่จะตายทันที หากต้องติดคุกทั้งที่ไม่ได้ทำผิดใดๆ เพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ และท้ายที่สุดก็เป็นไปตามคำพูด

พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ระบุว่าต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ การตรวจสอบคดีในข้อกล่าวหาที่ผู้ร้องยืนยันว่าเป็นการยัดข้อหาพร้อมของกลาง ส่วนผู้ที่ถูกระบุว่า เป็นผู้จับกุมนั้นจะเรียกมาพบ รวมทั้งตั้งกรรมการสอบสวนดำเนินการทางวินัย และย้ายออกมาจากพื้นที่ให้มาช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ไว้ก่อนเพื่อลดแรงเสียดทาน

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น