สุราษฎร์ฯ เอาจริงปราบรุกป่า เตรียมเสนอ คสช.แก้ปัญหาอุทยานทับที่ ปชช.

สุราษฎร์ธานี - จังหวัดสุราษฎร์ธานี เอาจริงผู้บุกรุกป่าในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ 4 แห่ง ตามนโยบาย คสช. พร้อมเตรียมเสนอให้คณะ คสช.แก้ไขปัญหาอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นประกาศเขตทับที่ดินทำกินชาวบ้านกว่า 20,000 ไร่ มีชาวบ้านกว่า 1,500 ครัวเรือน เดือดร้อนอย่างหนักมานานกว่า 10 ปี

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบนโยบายด้านการป้องกันและปรามปราบการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า ตามนโยบาย คสช. ให้แก่ นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่อุทยาน พร้อมปล่อยกำลัง ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจป่าไม้ อส. เจ้าหน้าที่อุทยาน และเจ้าหน้าที่ป้องกันรักษาป่า และกำลังฝ่ายปกครอง เข้าทำการกวาดล้างจับกุม ตัดทำลายพืชผลอาสินที่กลุ่มผู้บุกรุกเข้าจับจองพื้นที่ปลูกต้นยางพารา และต้นปาล์มนำมัน ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 4 แห่ง ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง อุทยานแห่งชาติเขาสก และอุทยานแห่งชาติคลองพนม

นายฉัตรป้อง กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปราบปรามจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พบอุปสรรคปัญหา เนื่องจากการเข้าพื้นที่ก็จะเจอกับการกดดันของกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ โดยมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลอยบู่เบื้องหลัง ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไม่เต็มที่ ในช่วงนี้เป็นโอกาสที่เหมาะสมคณะ คสช.ได้มีคำสั่งฉบับที่ 65/2557 ให้ดำเนินการปราบปราม และจับกุมผู้บุกรุกยึดถือครองครองพื้นที่ป่าอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างจริงจัง

ประกอบกับยังอยู่ในช่วงเวลาการประกาศกฎอัยการศึก จึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่จะดำเนินการปัดกวาดบ้านเรือนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เข้าที่เข้าทาง และในวันนี้ได้ปล่อยกำลังทั้งหมดเข้าดำเนินการรื้อถอน ตัดโค่นต้นยางพาราที่อายุระหว่าง 1-4 ปี ประมาณ 2,000 ต้น ที่กลุ่มผู้บุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่อุทยานแห่งชาติคลองพนม บ้านสองพี่น้อง หมู่ที่ 1 ตำบลพนม อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 3 แปลง พื้นที่จำนวน 25 ไร่เศษ และจะดำเนินการทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นของเดิม หรือของใหม่

พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี เร่งจัดทำรายละเอียดที่กรมอุทยานแห่งชาติประกาศเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นทับซ้อนที่ดินทำกินของชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ มีประชานกว่า 1,500 ครัวเรือน ได้รับความเดื่อร้อนหนักมาเป็นเวลานับ 10 ปี ให้ทางกองทัพภาค 4 เพื่อเสนอต่อคณะ คสช.เพื่อแก้ไขช่วยเหลือชาวบ้านอย่างถาวรต่อไป