ยะลา - “พล.ท.วลิต โรจนภักดี” แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานรับรายงานตัว ปชช.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งสิ้น 9 ราย เข้าร่วมโครงการ “พาคนกลับบ้าน” เผยที่ผ่านมา มีผู้ร่วมโครงการนี้แล้วกว่า 1,000 ราย เพื่อเป็นหนทางหนึ่งในการยุติความรุนแรงในพื้นที่ และทำให้พื้นที่ 3 จชต.กลับคืนสู่ความสงบโดยเร็ว
วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางมาเป็นประธานรับการรายงานตัวพี่น้องประชาชนจากพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จำนวน 9 ราย เพื่อเข้าร่วมสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามโครงการพาคนกลับบ้าน โดยมี พ.อ.นรินทร์ พรรณรายน์ รักษาราชการส่วนงานพาคนกลับบ้าน รองประธานคณะกรรมการประสานงานและรณรงค์เพื่อยุติการต่อสู้ด้วยวิธีรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้ ประชาชนผู้ที่รักสันติ และร่วมที่จะแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 9 ราย ที่เดินทางมาเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน ประกอบด้วย นายซอลาฮูดิง ดอเลาะ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 9 หมู่ 1 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายคอมซัน ลอหะมะ อายุ 28 ปี เลขที่ 23 หมู่ 1 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายซัยพูดี ดอเล๊าะ อายุ 27 ปี เลขที่ 9/1 หมู่ 1 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
นายมะรูซี กือจิ อายุ 38 ปี เลขที่ 7/7 หมู่ 1 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายมะซรู คาเร็ง อายุ 26 ปี เลขที่ 18/1 หมู่ 1 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายฮาเซ็ม ดอเล๊าะ อายุ 48 ปี เลขที่ 9/1 หมู่ 1 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายนูร์อาซีซัล ฮูลูสาแล๊ะ อายุ 30 ปี เลขที่ 7/4 หมู่ 1 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายอาดีมัน ฮูลูคาเร็ง อายุ 33 ปี เลขที่ 48 หมู่ 1 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และนายสมาน ลอหะมะ อายุ 47 ปี เลขที่ 23 หมู่ 1 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า “ในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีอีกวันหนึ่งที่พี่น้องได้แสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ และจะได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการออกมารายงานตัว ตามโครงการพาคนกลับบ้าน ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งโครงการดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกด้านกระบวนการยุติธรรมให้แก่ผู้ที่ออกมารายงานตัวแสดงตน ตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมา มีผู้ที่ออกมาแสดงตนตามโครงการพาคนกลับบ้าน จำนวน 1,083 คน ถ้ารวมกับครั้งนี้อีก 9 คน ก็รวมเป็น 1,092 คน”