แกนนำ กปปส.สงขลา เข้ารายงานตัวตามคำสั่ง “คสช.”

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แกนนำ กปปส.สงขลา “พงศภัค วุฒิปุญญะ” เข้ารายงานตัวตามคำสั่งเรียก คสช. ณ ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ พร้อมกล่าวให้เรียนรู้ความผิดพลาดจากอดีตเพื่อแก้ปัญหาอนาคต เหน็บนักประชาธิปไตยสนใจแต่ “เลือกตั้ง” โดยไม่มองบริบทสังคม วอนอย่าฉกฉวยอำนาจประชาชนจนนำไปสู่การลุแก่อำนาจ

วานนี้ (25 พ.ค.) นายพงศภัค วุฒิปุญญะ หรือโต หนึ่งในแกนนำ กปปส.จังหวัดสงขลา เข้ารายงานตัวตามคำสั่งของ คสช. ณ กองบัญชาการมณทลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีบุคคลทั้งหมด 14 คน ที่ถูกคำสั่งเรียกประกอบด้วย 1.นายพงศภัค วุฒิปุญญะ หรือโต 2.นายธัญญะ จันทร์รัตน์ 3.นายชัชพล สุวรรณสนิท 4.นายสุรเชษ บิลสัน 5.นายกาจบัณฑิต 6.นายสมโชค ดีลิ่น 7.นายเกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา 8.นายจิรายุ ไข้สีทอง 9.นางอำไพ สิริขันตกุล 10.นางอุดม จันทัศมี 11.นายทวี ภูมิสิงหราช 12.นายจรูญ พรรณราย 13.นายจรัญ ง๊ะสมัน 14.นายธรภพ วัตตะสิงษ์ โดย พล.ต.เลอชัย มาลีเลิศ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 เป็นผู้ออกคำสั่ง บรรยากาศโดยรวมเป็นไปอย่างเรียบร้อย เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการรายงานตัวถูกปล่อยตัวในทันที

โดย นายพงศภัค วุฒิปุญญะ ได้กล่าวกับนายทหารฝ่ายเสนาธิการของกองทัพไทยว่า “เหตุที่คนไทยถึงต้องพบกับสภาวการณ์ทางการเมืองที่บัดซบซ้ำซาก เพราะพวกเราไม่เคยเรียนรู้อดีตของพวกเราเองเลยแม้แต้น้อย เราไม่เคยเรียนรู้ เราท่องกันขึ้นใจว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อไหร่ อย่างไร แต่เราไม่เคยได้อะไรมากไปกว่าการท่องจำ ผมเพิ่งถูกสอนว่าประวัติศาสตร์คือ กงล้อที่หมุนทับพวกเราอยู่ทุกวันซ้ำแล้วซ้ำอีก ดังนั้น ผมจึงอยากวิงวอนทุกฝ่ายว่า เรียนรู้อดีตเสียก่อนจะแก้ปัญหาอนาคต”

“ผมรับปากว่าผมจะไม่เคลื่อนไหวใดๆ ผมเรียนรู้ที่จะพบกับความพ่ายแพ้มาระยะหนึ่งแล้ว ทุกท่านไม่ต้องกังวล แต่ผมจะลุกขึ้นมาสาปส่งทุกๆ คนไม่ว่าใคร รวมถึงพวกท่านด้วย หากฉกฉวยเอาชัยชนะของประชาชนในครั้งนี้นำไปสู่ความลุแก่อำนาจ ฉ้อฉล และล้มกระดานวาระการปฏิรูปประเทศ” นายพงศภัค วุฒิปุญญะ กล่าว

ผมขอตอบแทนสำหรับความห่วงใยในทุกกรณี ด้วยการยืนยันต่อทุกท่านว่า ผมไม่ใช่นักประชาธิปไตยปัญญาอ่อนที่คอยแต่จะบอกว่า “เลือกตั้ง เลือกตั้ง เลือกตั้ง” โดยไม่สนใจบริบทอะไรเลย ไม่สนแม้ว่าจะมีการคอร์รัปชันกันมโหฬารภายใต้รัฐธรรรมนูญ ไม่สนว่ากระบวนการเลือกตั้งได้ก่อให้เกิดความอหังการแห่งอำนาจจนเกินจะควบคุม และไม่สนแม้ว่าคนไทยสองกลุ่มกำลังจะฆ่ากัน และแน่นอนถึงผมจะไม่ใช่ และไม่สนิทกับมาร์กซิสต์คนใดๆ ในประเทศนี้ แต่ผมยังฝันถึงการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในประเทศอันเป็นที่รัก” นายพงศภัค วุฒิปุญญะ กล่าว