ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กาชาดภูเก็ต จัดกิจกรรมสนับสนุนการบริจาคโลหิตช่วยชีวิตแม่และลูก ขอบคุณ และยกย่องเชิดชูเกียรติผู้บริจาคโลหิตเป็นประจำ เนื่องในวันผู้บริจาคโลหิต ประจำปี 2557
วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ จังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันผู้บริจาคโลหิต ประจำปี 2557 ซึ่งสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Safe blood for saving mothers บริจาคโลหิต พลิกวิกฤต ช่วยชีวิตแม่และลูก” โดยมี นางภาวิณี อินทุสุต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนคณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาด น.ส.พรทิพย์ รัตจักร หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
กิจกรรมภายในงาน มีพิธีมอบเข็มผู้บริจาคโลหิต ให้แก่ผู้บริจาคโลหิตครั้งที่ 48, 60, 72, 84 และครั้งที่ 96 และพิธีมอบเกียรติบัตรแก่หน่วยงานที่สนับสนุนงานบริการโลหิตจังหวัดภูเก็ต โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ร่วมรับมอบ การพูดคุยเสวนาประสบการณ์ผู้บริจาคโลหิต กิจกรรมการเล่นเกมส์ตอบคำถาม นิทรรศการวันผู้บริจาคโลหิต ความรู้เรื่องการบริจาคโลหิต ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ การจารึกกำแพงแห่งมนุษยธรรม (Wall of Humanity) และการบริจาคโลหิต (รับของที่ระลึกเสื้อยืด-ภาพถ่ายสำหรับผู้บริจาคโลหิต) การบริจาคดวงตา อวัยวะ นอกจากนี้ ภายในงานมีอาหารว่าง อาหารกลางวัน เลี้ยงผู้บริจาคโลหิต และผู้ร่วมงานด้วย
นางภาวิณี อินทุสุต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานดังกล่าวว่า สำหรับการจัดงานวันผู้บริจาคโลหิต ซึ่งตรงกับวันที่ 14 มิ.ย.ของทุกปี ปีนี้ได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้นภายใต้แนวคิด “Safe blood for saving mothers บริจาคโลหิต พลิกวิกฤต ช่วยชีวิตแม่และลูก” ซึ่งได้จัดมาตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้มีการบริจาคโลหิตช่วยชีวิตแม่ที่มีความเสี่ยงที่อาจเสียชีวิตระหว่างการคลอดบุตร จากภาวะการตกเลือด และหากมีการบริจาคโลหิตอย่างเพียงพอ และปลอดภัย ก็จะลดปัญหาการเสียชีวิตลงได้
นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมดังกล่าวยังมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการขอบคุณ และยกย่องเชิดชูเกียรติผู้บริจาคโลหิต โดยเฉพาะผู้บริจาคโลหิตประจำ เพราะเป็นผู้ที่มีความเสียสละบริจาคโลหิตโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่ผู้บริจาคโลหิตรุ่นใหม่ได้ปฏิบัติตามด้วยการบริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุก 3 เดือน ส่งผลให้มีปริมาณโลหิตที่เพียงพออย่างสม่ำเสมอสำหรับผู้ป่วยในโรงพยาบาล
