ระนองซ้อมแผนเผชิญเหตุด้านอัคคีภัยบนเครื่องบิน

ระนอง - จังหวัดระนอง ซ้อมแผนป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยด้านอัคคีภัยบนเครื่องบิน โดยสมมติการเกิดเหตุที่ท่าอากาศยานระนอง เพื่อเตรียมพร้อมด้านบุคลากร และเครื่องมือยานพาหนะ สร้างความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว

วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ท่าอากาศยานระนอง พ.อ.สุทธิพงษ์ จงภักดี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดระนอง กอ.รมน.จว.ระนอง เป็นประธานพิธีเปิดการซ้อมแผนป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยด้านอัคคีภัย พร้อมด้วยผู้อำนวยการท่าอากาศยานระนอง นายกเทศมนตรีตำบลราชกรูด และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วม

นายเชาวลิต นิฒรรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์อัคคีภัยในจังหวัดระนอง นับวันจะเป็นปัญหาด้านสาธารณภัยมากขึ้น เนื่องจากอยู่ในช่วงการพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศเดินทางมาพักผ่อนในจังหวัดระนองเป็นจำนวนมาก ในแต่ละวันมีเที่ยวบินคอยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวจึงมีความจำเป็นในการสร้างความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว

โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ฉุกเฉินจากอัคคีภัยในท่าอากาศยานระนอง จังหวัดระนอง จึงได้จัดฝึกซ้อมแผนป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยด้านอัคคีภัย แบบเต็มรูปแบบ (Full-scale Exercise : FSX) โดยสมมติสถานการณ์สาธารณภัยขนาดกลางมีความรุนแรงระดับ 2 ได้จำลองการเกิดอุบัติเหตุที่เครื่องสายเครื่องยนต์ขัดข้อง มีเปลวเพลิงลุกไหม้ นักบินแจ้งขอลงฉุกเฉิน ในขณะที่นักบินนำเครื่องลงส่วนท้องของเครื่องกระแทกกับพื้น และได้ลื่นไถลออกนอกทางวิ่งปีกซ้ายกระแทกพื้นเกิดการลุกไหม้ มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และมีน้ำมันรั่วไหล จำเป็นต้องทำการเคลื่อนย้ายผู้โดยสาร และเข้าระงับเหตุเป็นการเร่งด่วนเกิดขีดความสามารถของท่าอากาศยาน จึงขอรับการสนับสนุนจากจังหวัดเป็นตามแผนปฏิบัติการฉุกเฉินแก้ไขปัญหาอัคคีภัยจังหวัดระนอง

พ.อ.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า การปฏิบัติงานต้องมีการวางแผนในการอพยพเมื่อเกิดเพลิงไหม้ให้ปลอดภัย ตลอดจนการประสานขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิง และการเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังประสานผู้เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ ทั้งหน่วยพยาบาล หน่วยกู้ชีพ การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ซึ่งการฝึกซ้อมนอกจากจะได้ประเมินผลการฝึกแล้ว ยังต้องวิเคราะห์หาความบกพร่องให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงจะได้นำมาใช้ และเป็นประสบการณ์ที่ส่ามารถนำไปปฏิบัติได้จริง