ชุมพร - ตำรวจละแม จ.ชุมพร ตามรวบตัวหนุ่มใหญ่หลังก่อเหตุลักทรัพย์ที่ลานปาล์ม กวาดเงินสดเกือบ 2 ล้าน หนีกบดานเกือบ 1 เดือน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม สภ.ละแม พล.ต.ต.สุทธินาถ สุดยอด ผบก.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.คมศักดิ์ ตันธนกุล ผกก.สภ.ละแม พ.ต.ท.วรพล ปาลรัตน์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อาวุธ อรุณพันธ์ รอง ผกก.ป พ.ต.ท. สมควร มีเดช สว.สส. และ ร.ต.ท.หญิงหัทยา อ่าวเจริญ พนักงานสอบสวน แถลงผลการจับกุมนายเกียรติศักดิ์ คงศรีแย้ม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184/14 ม.7 ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหลังสวน ในข้อหากระทำผิดฐานรับของโจร พร้อมของกลาง อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. กระสุน 15 นัด และเอกสารของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ
สืบเนื่องจากช่วงเช้าของวันที่ 17 พ.ค.57 ที่ผ่านมา ร.ต.ท.หญิงหัทยา อ่าวเจริญ พนักงานสอบสวน สภ.ละแม รับแจ้งมีเหตุลักทรัพย์ที่ “สมหมายลานปาล์ม” ซึ่งเป็นสาขาของบริษัท ท่าชนะน้ำมันปาล์ม ตั้งอยู่ที่ 70 ม.7 ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยชุดสืบสวน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เกิดเหตุเป็นลานรับซื้อผลปาล์มสด ได้ถูกคนร้ายย่องเข้าไปกลางดึกงัดประตูเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สินภายในสำนักงาน ได้เงินสดไป จำนวน 1,700,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เก็บเตรียมเอาไว้ซื้อผลปาล์มในช่วงเช้า และและบัตรเอทีเอ็มพร้อมรหัสที่จดไว้ในซองใส่บัตรเอทีเอ็ม ซึ่งมีเงินอยู่ในบัญชีอีกเกือบ 2 ล้านบาท
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า บัญชีของผู้เสียหายมีการเคลื่อนไหวในคืนที่เกิดเหตุ เมื่อไปตรวจสอบพบว่า มีการกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน ที่หน้าโรงแรมอวยชัยแกรนด์ อ.หลังสวน ถึง 10 ครั้งๆ ละ 20,000 บาท รวมเป็นเงินไป 200,000 บาท เนื่องจากบัตร เอทีเอ็มดังกล่าวสามารถกดได้จำกัดจำนวนเงินต่อครั้งต่อวัน และถูกแจ้งอายัดในเวลาต่อมา เมื่อตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดพบ นายเกียรติศักดิ์ ผู้ต้องหาใช้ผ้าขนหนูสีขาวปิดบังใบหน้าและกดเงินอยู่หน้าตู้เอทีเอ็ม จึงรวบรวมหลักฐานขอหมายจับต่อศาล และไปค้นที่บ้านเช่าของผู้ต้องหาพบอาวุธปืนขนาด 9 มม 1 กระบอก ยี่ห้อกล็อก หมายเลขทะเบียน กท.4026071 พร้อมกระสุนอีก 15 นัด ผู้ต้องรับว่าอาวุธปืนดังกล่าวซื้อมาจากคนอื่น และเอกสารอื่นๆ ของผู้เสียหายอีกหลายรายการ
จากการสอบสวน นายเกียรติศักดิ์ ให้การว่า ผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ในลานปาล์มดังกล่าวเป็นเครือญาติกันกับตนเป็นคน จ.นครสวรรค์ เข้ามาทำงานรับจ้างทั่วไปอยู่ในพื้นที่ ซึ่งในวันที่เกิดเหตุเวลาประมาณตี 2 ญาติคนดังกล่าวได้มาเรียกตนพร้อมขอร้องให้ไปส่งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารใน อ.หลังสวน ในระหว่างตนเดินทางไปส่งนั้นก็ได้เล่าให้ตนฟังว่าได้แอบไปลักทรัพย์ที่ลานปาล์ม และใช้ให้ตนไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม เนื่องจากญาติคนดังกล่าวใช้บัตรเอทีเอ็มไม่เป็น ตนจึงกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และใช้ผ้าขนหนูปิดบังใบหน้าเดินเข้าไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม 10 ครั้ง ได้เงินมา 2 แสนบาท และญาติคนดังกล่าวได้ให้เงินตนไว้ใช้ 100,000 บาท ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือวางแผนในการลักทรัพย์ในครั้งนี้ เพียงแต่เกิดความโลภไปชั่วขณะที่ยอมไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มให้เท่านั้น และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกด้าน และจะหาเงินมาคืนให้ผู้เสียหาย 100,000 บาท ตามที่ได้รับมา เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ และความบริสุทธิ์ของตนเอง
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหามากนัก ซึ่งยังมีเงินของกลางที่ถูกขโมยไปอีกเกือบ 2 ล้านบาท ที่ยังไม่สามารถติดตามคืนมาได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พร้อมทั้งจะรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
