ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เยี่ยมให้กำลังใจทหาร ตำรวจ และ อส.ที่ปฏิบัติงานด่านตรวจร่วมท่าฉัตรไชย เผยในภูเก็ตเหตุการณ์ปกติไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นตั้งแต่ คสช.ประกาศยึดอำนาจปกครอง ส่วนนักท่องเที่ยวนั้นยงคงใช้ชีวิตปกติ ผู้ประกอบการ และประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รับเคอร์ฟิวอาจกระทบท่องเที่ยวบ้าง แต่คาดว่าอีกไม่นานเมืองท่องเที่ยวน่าจะได้รับการผ่อนคลาย
เมื่อเวลา 21.00 น. วานนี้ (29 พ.ค.) นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายเสรี พาณิชกุล ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายสุพจน์ ชนะกิจ นายอำเภอถลาง เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.15 พัน 2 มณฑลทหารบกที่ 41 ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอถลาง ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านตรวจร่วมท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมมอบกระเช้า โดยมี ร..ต.สนอง อิ่มพันธ์ ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก ร.15 พัน 2 มณฑลทหารบกที่ 41 ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้รับมอบ และนำคณะผู้ว่าฯ ตรวจดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
โดยที่บริเวณด่านตรวจร่วมท่าฉัตรไชยนั้น ถือเป็นด่านตรวจทางบกที่ใหญ่ และสำคัญที่สุดของจังหวัดภูเก็ต เพราะเป็นด่านแรกที่จะเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศยึดอำนาจการปกครอง ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้ส่งทหารจาก ร.15 พัน 2 มาประจำที่ด่านตรวจร่วมดังกล่าว 43 นาย เพื่อปฏิบัติการในการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ว่า ตนพร้อมด้วยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมาเยี่ยมให้กำลังใจนายทหารจากค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้รับมอบหมายจากแม่ทัพภาค 4 ให้ปฎิบัติการดูแลความสงบเรียบร้อยที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 43 นาย เมื่อ 4 วันที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ทาง คสช.ได้ดำเนินการให้เกิดความสงบภายในประเทศนั้น ปรากฏว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ได้รับคำสั่งจากแม่ทัพภาค 4 ให้ดำเนินการตรวจร่วมในหลายๆ เรื่องที่ด่านท่าฉัตรไชย ทั้งในเรื่องของอาวุธสงคราม อาวุธปืน ยาเสพติด ด้วยการบูรณาการกันหลายหน่วยงาน ปรากฎว่า ในช่วงเวลานี้อาชญากรรมในพื้นที่ก็ลดลงเนื่องจากร้านค้าปิดเร็วขึ้น และประชาชนเองก็กลับบ้านเร็วขึ้น ทำให้อาชญากรรมลดลงไปโดยปริยาย
นายไมตรี ยังกล่าวถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตในขณะนี้ ซึ่งอยู่ในช่วงของการประกาศเคอร์ฟิว ว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาในภูเก็ต ยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติ ทั้งในส่วนของร้านค้าต่างๆ นั้น ได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้ร้านค้าต่างๆ รวมทั้งสถานบันเทิงปฏิบัติตามคำสั่งของ คสช. ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวก็ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจผ่านทางเว็บไชต์ของโรงแรมต่างๆ
อย่างไรก็ตาม การประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน จนถึงตี 4 นั้น ย่อมที่จะส่งผลกระทบบ้างในเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต แต่ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการสนองตอบคำสั่งของ คสช.และแม่ทัพภาค 4 เป็นอย่างดี และคิดว่าอีกไม่นานการประกาศเคอร์ฟิวน่าจะได้รับการผ่อนคลายในส่วนของเมืองท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งที่ผ่านมา ในภูเก็ต ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของ คสช. ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่งด้วยดี ซึ่งเรื่องนี้ตนได้เสนอไปยังแม่ทัพภาค 4 และผู้บริหารในระดับสูงให้รับทราบแล้ว
เมื่อเวลา 21.00 น. วานนี้ (29 พ.ค.) นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายเสรี พาณิชกุล ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายสุพจน์ ชนะกิจ นายอำเภอถลาง เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.15 พัน 2 มณฑลทหารบกที่ 41 ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอถลาง ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านตรวจร่วมท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมมอบกระเช้า โดยมี ร..ต.สนอง อิ่มพันธ์ ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก ร.15 พัน 2 มณฑลทหารบกที่ 41 ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้รับมอบ และนำคณะผู้ว่าฯ ตรวจดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
โดยที่บริเวณด่านตรวจร่วมท่าฉัตรไชยนั้น ถือเป็นด่านตรวจทางบกที่ใหญ่ และสำคัญที่สุดของจังหวัดภูเก็ต เพราะเป็นด่านแรกที่จะเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศยึดอำนาจการปกครอง ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้ส่งทหารจาก ร.15 พัน 2 มาประจำที่ด่านตรวจร่วมดังกล่าว 43 นาย เพื่อปฏิบัติการในการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ว่า ตนพร้อมด้วยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมาเยี่ยมให้กำลังใจนายทหารจากค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้รับมอบหมายจากแม่ทัพภาค 4 ให้ปฎิบัติการดูแลความสงบเรียบร้อยที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 43 นาย เมื่อ 4 วันที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ทาง คสช.ได้ดำเนินการให้เกิดความสงบภายในประเทศนั้น ปรากฏว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ได้รับคำสั่งจากแม่ทัพภาค 4 ให้ดำเนินการตรวจร่วมในหลายๆ เรื่องที่ด่านท่าฉัตรไชย ทั้งในเรื่องของอาวุธสงคราม อาวุธปืน ยาเสพติด ด้วยการบูรณาการกันหลายหน่วยงาน ปรากฎว่า ในช่วงเวลานี้อาชญากรรมในพื้นที่ก็ลดลงเนื่องจากร้านค้าปิดเร็วขึ้น และประชาชนเองก็กลับบ้านเร็วขึ้น ทำให้อาชญากรรมลดลงไปโดยปริยาย
นายไมตรี ยังกล่าวถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตในขณะนี้ ซึ่งอยู่ในช่วงของการประกาศเคอร์ฟิว ว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาในภูเก็ต ยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติ ทั้งในส่วนของร้านค้าต่างๆ นั้น ได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้ร้านค้าต่างๆ รวมทั้งสถานบันเทิงปฏิบัติตามคำสั่งของ คสช. ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวก็ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจผ่านทางเว็บไชต์ของโรงแรมต่างๆ
อย่างไรก็ตาม การประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน จนถึงตี 4 นั้น ย่อมที่จะส่งผลกระทบบ้างในเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต แต่ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการสนองตอบคำสั่งของ คสช.และแม่ทัพภาค 4 เป็นอย่างดี และคิดว่าอีกไม่นานการประกาศเคอร์ฟิวน่าจะได้รับการผ่อนคลายในส่วนของเมืองท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งที่ผ่านมา ในภูเก็ต ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของ คสช. ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่งด้วยดี ซึ่งเรื่องนี้ตนได้เสนอไปยังแม่ทัพภาค 4 และผู้บริหารในระดับสูงให้รับทราบแล้ว