กระบี่ - ศุลกากรกระบี่ รวบหญิงสาวชาวเวียดนามลักลอบนำเข้าไอซ์ น้ำหนัก 3.2 กิโลกรัม คาสนามบิน มูลค่าประมาณ 9 ล้านบาทเศษ เผยด่านศุลกากรกระบี่จับกุมได้เป็นรายที่ 2 ในรอบ 1 เดือน
วันนี้ (29 พ.ค.) นางภวรัญชน์ ตันมีศิลป์ นายด่านศุลกากรกระบี่ เปิดเผยว่า เมื่อวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 57 เวลา 12.00 น. ที่สำนักสืบสวนและปราบปราม ส่วนสืบสานปราบปราม 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวกรมศุลกากรจับกุมหญิงสาวชาวเวียดนาม ลักลอบนำสารเสพติดประเภทแมทแอมเฟตตามีน (ไอซ์) เข้ามาในราชอาณาจักรทางด่านศุลกากรกระบี่ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 3.2 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 9 ล้านบาท
ตามที่ นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายด้านการควบคุมทางศุลกากร และปกป้องสังคมอย่างเคร่งครัด จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร เข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดให้โทษแก่ผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางด่านศุลกากรทั่วประเทศ โดยมอบหมายให้ นายไพศาล ชื่นจิตร รองอธิบดีกรมศุลกากร นางระวิ ประทีปดลปรีชา รองอธิบดีกรมศุลกากร นายประยุทธ์ มณีโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานกรมศุลกากรภาค 4 นางภวรัญชน์ ตันมีศิลป์ นายด่านศุลกากรกระบี่ นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม นายธาดา ชุมไชโย ผู้อำนวยการสำนักปราบปราม 3 ดำเนินการวางแผนจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติดังกล่าว
โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 57 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรกระบี่ นำโดย นายสมชาย สัญชัยศิริกูล หัวหน้าฝ่ายปราบปราม นายสุนสวัสดิ์ ธรรมนิตยางกูร หัวหน้าฝ่ายควบคุมและตรวจสอบทางศุลกากร น.ส.พรภัสสร ลิมปนะศรษฐ์ หัวหน้าฝ่ายบริการศุลกากร ที่ 1 น.ส.ดารัตน์ เสียงหลาย หัวหน้าฝ่ายบริการศุลกากรที่ 2 ได้ตรวจค้น และจับกุมผู้โดยสารชื่อ MRS.TRAN THI BE HAI อายุ 43 ปี สัญชาติเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้โดยสารของสายการบิน TIGER AIR เที่ยวบินที่ TR 21832 เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 57 โดยผู้โดยสารไม่ได้รับกระเป๋าเดินทางของตนเองในขณะเดินทางเข้ามา
ต่อมา วันที่ 26 พฤษภาคม 57 ได้มีเจ้าหน้าที่สายการบินของ TIGER AIR เป็นผู้นำกระเป๋าเดินทางสีดำ น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ระบุชื่อ TRAN THI BE HAI มาให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำท่าอากาศยานตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์ และพบสิ่งผิดปกติเป็นกระเป๋าถือสตรีจำนวนหนึ่งบรรจุอยู่ในกระเป๋าเดินทาง จนเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. MRS.TRAN THI BE HAI ได้มาแสดงตัว และแสดงความเป็นเจ้าของกระเป๋าเดินทางดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ให้เปิดล็อกกุญแจกระเป๋า เบื้องต้นพบกระเป๋าถือสตรีสภาพใหม่ จำนวน 8 ใบ บรรจุอยู่ภายในพร้อมกับสัมภาระส่วนตัวอื่นๆ จึงได้ตรวจสอบกระเป๋าถือพบว่าบริเวณผนังด้านในทั้ง 2 ด้าน มีความหนาผิดปกติ จึงได้นำกระเป๋าเดินทางพร้อมเชิญตัวมาตรวจค้นในห้องที่ทำการเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่โดยละเอียด
ผลจากการตรวจค้นพบวัตถุสีขาวเป็นผลึก บรรจุในถุงพลาสติกใส ห่อหุ้มด้วยกระดาษสีเหลืองอีกชั้นหนึ่ง ซุกซ่อนอยู่ในผนังข้างกระเป๋าถือสตรีทั้ง 8 ใบ ข้างละ 2 ถุง รวมทั้งสิ้น 32 ถุง น้ำหนักประมาณถุงละ 100 กรัม รวมน้ำหนักประมาณ 3,200 กรัม จึงได้นำตัวอย่างวัตถุที่ตรวจพบมาตรวจสอบด้วยสารทดสอบยาเสพติด ปรากฏผลเป็นสารเสพติดประเภทแมทแอมเฟตตามีน (ไอซ์) มูลค่าประมาณ 9 ล้านบาทเศษ
เจ้าหน้าที่ศุลกากร จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2545 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.57 เจ้าหน้าที่ศุลกากรกระบี่ ยังสามารถจับกุมหญิงสาวชาวไทย ชื่อเนตรนภา กิบสัน พร้อมยาไอซ์ซุกซ่อนมาในกระเป๋าเดินทางมากับเครื่องบินจากเมืองเจินตู ประเทศจีน มายังจังหวัดกระบี่ พร้อมของกลางยาไอซ์ 2,370 กรัม รายแรก ซึ่งการจับกุมหญิงสาวชาวเวียดนามเป็นรายที่สอง ที่ซุกซ่อนยาเสพติดขึ้นเครื่องบินโดยสารมาจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทย และถูกจับได้ในที่สุด
นายด่านศุลกากรกระบี่ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการกวดขันการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมายผ่านสนามบินมาตลอด และหลังจากที่สามารถจับกุมผู้ลักลอบนำเข้ายาเสพติดผ่านสนามบินได้ถึง 2 ราย ในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็ได้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบเพิ่มมากขึ้น