เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรจับชาวกานา ลักลอบขนยาไอซ์ มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท ขณะเดินทางมาโดยสารการบินเอมิเรตส์ แอรไลน์ เที่ยวบินที่ EK372 สารภาพมีภรรยาเป็นคนไทยและรับจ้างขนเที่ยวละ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ที่ปรึกษากรมศุลกากร นายอวยชัย กุลทิพย์มนตรี ผอ.สนง.ศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พ.อ.บุญชู กลิ่นสาคร ผู้บังคับกรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ นายคณิท อิศดุลย์ ผอ.ส่วนควบคุมทางศุลกากร นายบุญมี บูรณะภักดี ผอ.ส่วนบริการผู้โดยสาร นายธาดา ชุมไชโย ผอ.ส่วนสืบสวนและปราบปราม 3 นายสมชาย อัศวตรีรัตนกุล หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร สนง.ศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสำนักสืบสวนและปราบปราม ร่วมกันแถงผลการจับกุม นายทุธ แอดจาร์เทย์ โกลเวอร์ (MR.THUT ADJARTEY GLOVER) อายุ 50 ปี ชาวกานา ลักลอบนำเข้ายาไอซ์ น้ำหนัก 1,200 กรัม มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท
นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ที่ปรึกษากรมศุลกากร กล่าวว่า ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ได้มุ่งเน้นการปราบปรามยาเสพติด จึงกำชับเจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันในการตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านสนามบินและตามแนวชายแดน จนกระทั่งวันที่ 28 มิ.ย. 57 ที่ผ่านมา เวลา 19.40 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากร สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและปราบปราม พบชายต้องสงสัยที่บริเวณช่องตรวจไม่มีสิ่งของต้องสำแดง (ช่องเขียว) หมายเลข 1 โซน B อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้โดยสารการบินเอมิเรตส์ แอรไลน์ เที่ยวบินที่ EK372 จึงขอตรวจค้นสัมภาระ
โดยนำเข้าเครื่องเอกซเรย์ ก็พบวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ด้านในกระเป๋า และเมื่อเปิดตรวจสอบพบวัตถุเป็นเกล็ดสีขาว จำนวน 3 ห่อ อยู่ในช่องลับด้านข้างกระเป๋า จึงทดสอบด้วยน้ำยาทดสอบสารเสพติดเบื้องต้น พบว่าเป็นเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ หรือ ไอซ์ ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 1,200 กรัม
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายโกลเวอร์ ให้การว่า มีอาชีพค้าขายอยู่ที่กานา และมีภรรยาชาวไทยอยู่ใน กทม. โดยก่อนเดินทางมานั้น ได้รับการว่าจ้างเป็นเงิน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 150,000 บาท จากชายชาวไนจีเรีย ให้ไปรับกระเป๋าของกลางใบดังกล่าวข้างต้นจากเมืองอักกรา สาธารณรัฐกานา ไปส่งยังประเทศมาเลเซีย โดยเดินทางผ่านเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่ทราบว่ามียาเสพติดอยู่ในกระเป๋า
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ หรือ ไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบมาตรา 16, 17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับ 9) พ.ศ. 2482 ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อดำเนินคดีต่อไป