ชุมพร - อดีตนักศึกษาโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมสหประชาชาติ ไอเดียเจ๋ง สร้างศูนย์เรียนรู้บ้านดิน กินอยู่อย่างธรรมชาติ เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ชาวต่างชาติแห่เยี่ยมชม
นายวิชิต กัลยาณวัตร พัฒนาการ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ลงพื้นที่เยี่ยมชมการสร้างศูนย์เรียนรู้บ้านดิน ตั้งอยู่บริเวณเลขที่ 105/2 หมู่ที่ 4 ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร หลังจากทราบว่าได้มีอดีตนักศึกษาโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม องค์การสหประชาชาติ หรือยูเนสโก เข้ามาดำเนินการสร้างศูนย์เรียนรู้บ้านดินนานกว่า 7 ปีแล้ว จนเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และยังได้มีนักศึกษา อาสาสมัครจากต่างประเทศเข้ามาช่วยก่อสร้างศูนย์เรียนรู้บ้านดิน ที่มีความสวยงามแปลกตาแตกต่างไปจากบ้านที่อยู่อาศัยทั่วไป เพื่อเก็บข้อมูลนำไปประสานงานกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องให้ได้สนับสนุนส่งเสริม และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของจังหวัดชุมพรในอนาคตต่อไป
นายเรวัตร ทองบุญชู อายุ 33 ปี เจ้าของศูนย์การเรียนรู้บ้านดินแดง กล่าวว่า การสร้างบ้านดินเป็นศูนย์เรียนรู้ เมื่อประมาณ 8 ปี ที่ผ่านมา สมัยที่ตนเป็นนักศึกษาโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ที่ประเทศฝรั่งเศส เป็นเวลา 1 ปี ได้ไปเห็นวัฒนธรรมต่างๆ เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ตนได้ศึกษาวัฒนธรรม และธรรมชาติต่างๆ รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมบ้านดินในประเทศของเขา ตนเองมีความประทับใจอย่างมาก และเมื่อโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจบสิ้นลง ตนได้กลับมายังภูมิลำเนาบ้านเกิดที่ ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร จึงมีแนวคิดที่จะสร้างศูนย์เรียนรู้บ้านดิน ที่สร้างจากดิน และวัสดุจากธรรมชาติ โดยใช้ชื่อว่า “ศูนย์เรียนรู้บ้านดินแดง” บนเนื้อที่ของตนเองราว 5 ไร่เศษ ที่อยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาวิถีชีวิต และความเป็นอยู่อย่างธรรมชาติแบบพอเพียง
นายเรวัตร กล่าวอีกว่า ตนเองได้เริ่มลงมือสร้างศูนย์การเรียนรู้บ้านดินแห่งนี้ขึ้นมาเรื่อยๆ โดยใช้ช่องทางสื่อออนไลน์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร จนเป็นที่รู้จักแพร่หลายในต่างประเทศ กระทั่งได้มีนักศึกษา และอาสาสมัครจากต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากทวีปยุโรปเดินทางมาเป็นคณะชุดละ 5- 10 คน เพื่อมาช่วยก่อสร้างศูนย์เรียนรู้บ้านดินแห่งนี้ บ้านดินที่สร้างขึ้นก็จะรังสรรค์ตามจินตนาการของอาสาสมัครในแต่ละชาติที่ได้คิดขึ้นมาเอง จนปัจจุบันนี้เป็นเวลา 7 ปีแล้ว สามารถสร้างบ้านดินได้ทั้งหมด 15 หลัง และเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ และสามารถใช้ชีวิตความเป็นอยู่ ตั้งแต่การกินการอยู่พักอาศัยเป็นไปตามวิถีของธรรมชาติทั้งหมด พร้อมกับออกไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และวิถีชีวิตของคนชุมชนแห่งนี้ที่ประกอบอาชีพทำสวนกาแฟ ปาล์ม ยางพารา เลี้ยงสัตว์ ท่วมกลางป่าเขาที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์
นายเรวัตร กล่าวต่อว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่ศูนย์ศึกษาเรียนรู้บ้านดินแดงแห่งนี้ สามารถพักอาศัยกินอยู่แบบโฮมสเตย์ ในบ้านดินได้เลย โดยคิดค่าบริการเป็นรายหัว หัวละ 350 บาทต่อวัน เพื่อไว้เป็นค่าใช้จ่าย พร้อมอาหาร 3 มื้อ อาหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นพืชผัก และปลาจากสวนเกษตรพอเพียงที่มีอยู่รอบๆ แห่งนี้ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมศูนย์แห่งนี้รู้ข่าวจากการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ ในอนาคตตนหวังว่า ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้จะจุดประกายแนวคิดให้เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับการศึกษาวัฒนธรรม และอนุรักษ์ธรรมชาติต่อไป
