สตูล - ปกครองสตูล เปิดศาลากลางให้กลุ่มผู้มีสิทธิจากสาขาต่างๆ เลือกตั้งสมาชิกสภาปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องในกรณีครบวาระ จังหวัดละ 1 คน 8 สาขา รวมทั้งสิ้น 49 คน โดยผู้ได้รับการคัดเลือกจะเข้าไปทำหน้าที่ช่วยให้ความเห็นในการบริหารและพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้ (24 พ.ค.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้จัดให้มีการคัดเลือกสมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีครบวาระ จำนวน 3 กลุ่ม 13 สาขา 49 คน ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการคัดเลือกจังหวัดละ 1 คน 8 สาขา รวม 40 คน ประกอบด้วย ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ผู้แทนกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน, ผู้แทนกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและอิหม่ามประจำมัสยิด, ผู้แทนเจ้าอาวาสในพระพุทธศาสนา, ผู้แทนซึ่งมีความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่, ผู้แทนกลุ่มสตรี, ผู้แทนครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ, ผู้แทนหอการค้าจังหวัด และสภาอุตสาหกรรมจังหวัด
ซึ่งมีความรู้ ความเข้าใจเป็นอย่างดีในด้านเศรษฐกิจ พาณิชย์ อุตสาหกรรม แรงงาน หรือ เกษตรกรรม กลุ่มที่ 2 เลขาธิการ ศอ.บต. ดำเนินการคัดเลือก จำนวน 4 สาขาๆ ละ 1 คน ประกอบด้วย ผู้แทนศาสนาอื่น, ผู้แทนสถาบันศึกษาปอเนาะ ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยสถาบันศึกษาปอเนาะ, ผู้แทนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และผู้แทนสื่อมวลชนในกิจการหนังสือพิมพ์ กิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ กลุ่มที่ 3 ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้ง จำนวน 5 คน ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิอื่นๆ ซึ่งมิใช่ข้าราชการ หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
ในส่วนของจังหวัดสตูล ได้จัดให้มีการคัดเลือก ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดสตูล บรรยากาศการคัดเลือกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้มีสิทธิคัดเลือกแต่ละสาขาได้ทยอยเดินทางมาใช้สิทธิอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ได้รับการคัดเลือกจะเข้าไปทำหน้าที่ในการช่วยกันในการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น ให้ความเห็นในนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้คำปรึกษา เสนอแนะ ร่วมมือ และประสานงานกับ ศอ.บต. ตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติราชการตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ ศอ.บต. ให้ความเห็นเพื่อประกอบในการบริหาร การพัฒนา และการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งพิจารณาเรื่องร้องเรียนของประชาชนที่เกี่ยวกับปัญหาความไม่เป็นธรรม หรือได้รับความเดือดร้อนอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อนำไปดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป