ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.กะทู้ จ.ภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง จับกุมนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เป็นผู้ร้ายข้ามแดน ในข้อหายักยอกทรัพย์ และฉ้อโกง
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะทู้ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.วิษณุ ม่วงแพรศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีระยุทธ์ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.คุณเดช ณ หนองคาย รอง ผกก.สส.สภ.กะทู้ นำโดย พ.ต.ท.สุทธิชัย เทียนโพธิ์ สว.สส.สภ.กะทู้ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.กะทู้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง นำโดย ร.ต.ต.กิตติพันธ์ เอี่ยมจรูญ รองสารวัตรกองบังคับการสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายเดทเลฟ เกอร์ฮาร์ด ฮิวเออร์ (Mr.Detlef Gerhard Hewer) อายุ 49 ปี สัญชาติเยอรมัน ตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 309/2557 ลงวันที่ 17 มี.ค.2557 คดีหมายเลขดำที่ จ.2/2557 คดีแดงที่ จ.2/2557 ในข้อกล่าวหา เป็นผู้ถูกออกหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ และฉ้อโกง โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 6/83 หมู่บ้านพนาสนธิ์ ถ.วิชิตสงคราม อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
สำหรับการจับกุมสืบเนื่องเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับการประสานมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง ให้สืบสวนข้อมูล และเบาะแสเกี่ยวกับ นายเดทเลฟ เกอร์ฮาร์ด ฮิวเออร์ ที่ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2552 ที่ผ่านมา โดยให้ข้อมูลพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 52/8 ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่ง นายเดทเลฟ เกอร์ฮาร์ด ฮิวเออร์ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนคดีที่สาธารณรัฐออสเตรีย ต้องการตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านที่ นายเดทเลฟ ได้ให้ข้อมูลไว้ แต่ไม่พบตัวเนื่องจากได้ย้ายออกไปอาศัยอยู่หมูบ้านพนาสนธิ์ เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบและ เห็นนายเดทเลฟ ยืนอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงให้ดูหมายจับของศาลอาญา ซึ่งเป็นนายเดทเลฟ จริง จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.กะทู้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองได้ควบคุมตัว นายเดทเลฟ เกอร์ฮาร์ด ฮิวเออร์ ไปยังกองบังคับการสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐออสเตรียต่อไป