กระบี่ - อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ สนธิกำลังรื้อถอนอาสินบนเขาอ่าวนาง รวมเนื้อที่ 3 ไร่เศษ แฉลักลอบกรานต้นไม้ให้ยืนต้นตาย ปลูกยางพารา และผลไม้แทน หวังยึดครองพื้นที่เพื่อขายต่อนายทุนไร่ละ 25 ล้านบาท
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (14 พ.ค.) นายบุญแนม ช่วยระดม ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.5 บก.ปทส) เข้าทำลายอาสินในพื้นที่บุกรุกเขาอ่าวนาง ม.3 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 หลังพบมีการบุกรุกกรานต้นไม้ใหญ่ให้ยืนต้นตายจำนวนมากและปลูกอาสินยางพารา และไม้ผล จนเต็มพื้นที่หวังครอบครองที่ดิน
โดยสภาพพื้นที่บุกรุกอยู่บริเวณเนินเขา เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ สามารถมองเห็นวิวท้องทะเล และชายหาดอ่าวนางด้านล่างได้อย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าขึ้นไปบนยอดเขาระยะทางกว่า 800 เมตร บริเวณพื้นที่บุกรุกพบต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกกรานโคนต้นยืนต้นตายจำนวนมาก คาดว่ามีการราดยาฆ่าตอด้วย และมีการปลูกอาสินจำนวนมาก ประกอบด้วย ยางพารา สะตอ ขนุน มะม่วงหิมมะพานต์ มะพร้าว กระท้อน หมาก และมะพร้าว รวมกว่า 180 ต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อถอนเก็บไว้เป็นหลักฐาน และติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป
นายบุญแนม เปิดเผยว่า ก่อนการรื้อถอนอาสินในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ โดยกรานต้นไม้ใหญ่ให้ยืนต้นตายจำนวนมาก และมีการปลูกต้นยางพารา และอาสินอื่นๆ จำนวนมากเพื่อยึดครองพื้นที่เตรียมเสนอขายนายทุน เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจยึดพื้นที่พบต้นไม้ยืนต้นตายจำนวนมาก และมีการปลูกอาสินเต็มพื้นที่ แต่ไม่พบผู้กระทำผิด จึงได้ประกาศตามมาตรา 22 เพื่อให้ผู้ครอบครองมาแสดงตน ก่อนทำลายอาสินดังกล่าว
สำหรับที่ดินบริเวณใกล้หาดอ่าวนาง ปัจจุบันหากมีเอกสารสิทธิ จะมีราคาสูงถึงไร่ละ 25-30 ล้านบาท เนื่องจากอยู่ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดกระบี่ และเป็นที่สูงเหมาะต่อการสร้างบ้านพักตากอากาศ จึงทำให้เป็นที่ต้องการของนายทุน