นครศรีธรรมราช - เจ้าของร้านทองซีก้วง มอบเงินสดอัดฉีดตำรวจนครศรีธรรมราช 5 หมื่นบาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ หลังติดตามจับกุมคนร้ายบุกจี้ชิงทรัพย์ในร้านได้อย่างรวดเร็ว
กรณีคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าไปใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงทรัพย์ที่ร้านทองซีก้วง สาขา 9 เลขที่ 233 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ของนายบุญทวี ริเริ่มสุนทร อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ทองรูปพรรณไป จำนวน 128 เส้น หนัก 128 บาท โดยกล้องวงจรปิดจับภาพขณะคนร้ายก่อเหตุไว้ได้ ต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องได้คือนายอานนท์ เมตรไตรย์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224 ม.8 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นนักดนตรี พร้อมของกลางทองหนัก 124 บาท โดยรับสารภาพว่า ต้องการหาเงินไปซื้อไอโฟน 5 จึงก่อเหตุดังกล่าวนั้น
ล่าสุด วันนี้ (8 พ.ค.) น.ส.ณัฐกานต์ รัษฐปานะ อายุ 37 ปี เป็นตัวแทนเจ้าของร้านทองซีก้วง เดินทางมามอบเงินสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว เป็นเงิน จำนวน 50,000 บาท และกล่าวขอบคุณตำรวจที่ทำงานได้อย่างทันท่วงที ซึ่งได้ออกติดตามจับกุมตัวคนร้ายโดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ก็สามารถจับตัวคนร้ายได้ในที่สุด ซึ่งหากล่าช้ากว่านี้คนร้ายอาจจะหลบหนีไปได้ ทางเจ้าของร้านซึ่งเป็นอดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้ส่งตัวแทนมามอบเงินให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อกำลังใจ และขอบคุณ โดยมี พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมือง เป็นผู้รับมอบเงินจำนวนดังกล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมือง กล่าวว่า การจับกุมตัวคนร้ายในครั้งนี้มีหลายฝ่ายที่ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่ติดกล้องวงจรปิดรอบเขตเทศบาลนั้นสามารถจับภาพพฤติกรรมของคนร้ายได้อย่างละเอียด จึงนำมาเป็นหลักฐานในการติดตามตัวคนร้าย และนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุด ซึ่งขอเตือนเจ้าร้านทอง หรือผู้ประกอบการต่างๆ รู้จักป้องกันตนเอง กล้องวงจรปิดนั้นสำคัญมาก หากเกิดเหตุการณ์สามารถบันทึกไว้ได้ และทำให้ง่ายต่อการติดตามจับกุมผู้กระทำผิด ซึ่งถ้าไม่มีการติดกล้องไว้คงติดตามตัวคนร้ายยากกว่านี้ ซึ่งการติดกล้องวงจรปิดนั้นลงทุนไม่มากแต่มีประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
สำหรับพนักงานที่ประสบเหตุอย่างนี้คิดว่าน่าจะมีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการประสบเหตุอย่างนี้ด้วย เพื่อเป็นการป้องกัน และรู้ทันต่อคนที่ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ โดยเฉพาะคนที่เข้ามาแล้วใส่หมวก ใส่แว่นตาดำนั้นไม่ควรให้เข้ามาภายในร้านอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุคนร้ายบุกจี้ชิงทรัพย์ในร้านทองซีกวงในครั้งนี้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการสั่งการทางวิทยุตลอดเวลาให้มีการเฝ้าระวังตามร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ เพื่อป้องกันเหตุอย่างเข้มงวด ขณะที่กำลังตำรวจได้นำตัวนายอานนท์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ ก่อนจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป