ชุมพร - ผกก.สภ.ท่าแซะ ชุมพร เข้าพบเจ้าของร้านขายของชำ พร้อมติดตู้แดงไว้หน้าร้าน ย้ำสั่งกวาดล้างยาเสพติดในหมู่บ้าน ต้นเหตุปัญหาลักขโมย หลังถูกขึ้นป้ายประชดตำรวจ แต่ยกย่องความสามารถของมหาโจร
จากกรณีนายสมโภชน์ จันทร์ทับ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านขายของชำ เลขที่ 101 หมู่ 14 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้ขึ้นป้ายไวนีลขนาดใหญ่พร้อมระบุข้อความ “ประกาศ บ้านหลังนี้โดนขโมยเข้าลักทรัพย์ 4 ครั้งแล้ว แต่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมดำเนินคดีได้แม้แต่ครั้งเดียว ขอยกย่องในความสามารถของท่านมวลมหาโจรจริงๆ” และอีกข้อความด้านล่าง “ข้อมูลนี้ใช้ประกอบการตัดสินใจของผู้ที่คิดจะประกอบอาชีพหรืออยู่อาศัยในพื้นที่นี้” ส่วนที่ประตูม้วนด้านหน้าร้านติดป้ายป้ายไวนีลขนาดกว้างยาว 1X1 เมตร และมีข้อความว่า “ปิดหนีโจรชั่วคราว ท้องที่นี้โจรเยอะมาก” จนเป็นที่ฮือฮาสนใจและวิพากษ์วิจารณ์แก่ประชาชนทั่วไปที่สัญจรผ่านไปมาอย่างกว้างขวางตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
วันนี้ (2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า หลังจากสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวปรากฏว่า พ.ต.อ.ภาศกร ณ พิกุล ผกก.สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้เดินทางไปที่ร้านขายของชำพบกับนายสมโภชน์ จันทร์ทับ เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับให้ตำรวจสายตรวจนำตู้แดงของ สภ.ท่าแซะ เข้าไปติดตั้งไว้ที่ด้านหน้าร้านขายของชำเพื่อใช้เป็นจุดลงเวลาตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยภายในชุมชนดังกล่าว เพื่อสร้างความสบายใจให้ประชาชนและผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งมิจฉาชีพ
ขณะที่นายสมโภชน์ เจ้าของร้านขายของชำ ได้เล่าถึงความไม่พอใจในการทำหน้าที่ของตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไม่สนใจคดี และหลังแจ้งความยังมาที่เกิดเหตุในวันถัดไปอีกด้วย และยังไม่ใส่ใจรวบรวมหาพยานหลักฐานในการติดตามจับกุมคนร้าย ทั้งๆ ที่เกิดเหตุการณ์ซ้ำซากมาถึง 4 ครั้ง สูญทรัพย์สินไปนับแสนบาท แต่แก๊งมิจฉาชีพยังออกอาละวาดลักทรัพย์สินชาวบ้านอีกหลายแห่งสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว จนต้องระบายออกโดยการทำป้ายไวนีลขนาดใหญ่ติดไว้ที่หน้าร้านค้าที่มีข้อความประชดประชันเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยกย่องความสามารถของมหาโจรดังกล่าว
นอกจากนี้ นายสมโภชน์ยังได้แสดงความขอบคุณต่อ พ.ต.อ.ภาศกร ที่มาเยี่ยมเยือนและยืนยันว่าจะให้ตำรวจเข้มงวดในการทำงานสร้างความอบอุ่นใจให้แก่ชาวบ้าน และตนเองก็พร้อมที่จะปลดป้ายประชดประชันดังกล่าวลงทันที เพราะไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ใครเสียหาย หรือโจมตีใคร โดยมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งในละแวกใกล้เคียงมาให้กำลังใจและร่วมรับฟังด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ภาศกร ณ พิกุล ผกก.สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร กล่าวว่า ตนเข้าใจความรู้สึกของผู้เสียหายดี เพราะการทำงานและการสื่อสารของตำรวจตนต้องยอมรับว่าการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ ในฐานะที่ตนเป็นผู้บังคับบัญชา อย่างไรก็หนีความรับผิดชอบไปไม่ได้ และจะเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว อีกทั้งขณะนี้ พล.ต.ต.สุทธินาท สุดยอด ผบก.ภ.จ.ชุมพร ทราบเรื่องแล้วและให้ตนลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานสรุปเรื่องราวทั้งหมดให้ทราบเพื่อจะแก้ไขปัญหาต่อไป
พ.ต.อ.ภาศกรกล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนได้รับข้อมูลพอสมควรเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นพอสมควรแล้ว โดยเฉพาะปัญหาในหมู่บ้านที่มีการระบาดของน้ำต้มใบกระท่อม หรือยาเสพติดประเภทสี่คูณร้อยที่แพร่ระบาด และมีกลุ่มวัยรุ่นนิยมเสพกันจำนวนมาก เป็นต้นเหตุของปัญหาอาชญากรรม การลักเล็กขโมยน้อยของในหมู่บ้าน ตนได้สั่งการให้ตำรวจเร่งดำเนินการกวาดล้างปราบปราบอย่างเด็ดขาด และให้ตำรวจสายตรวจออกตรวจตราอย่างเข้มงวดเพื่อสร้างความสบายใจแก่ชาวบ้าน โดยใช้จุดลงเวลาตู้แดงที่ร้านขายของชำที่บ้านของนายสมโภชน์เป็นศูนย์กลางในการออกตรวจตราความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน