ชุมพร - ชาวบ้านสุดทนขึ้นป้ายประชดชดตำรวจ หลังถูกโจรบุกงัดร้านขายของชำติดต่อกัน 4 ครั้ง สูญเสียทรัพย์สินเกือบแสน แถมยังออกอาละวาดโดนกันทั้งหมู่บ้าน ตำรวจยังจับมือใครดมไม่ได้
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (1 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านขายของชำเลขที่ 101 หมู่ 14 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งอยู่ริมถนนลาดยางสายรับร่อ ห่างจากถนนใหญ่สายเพชรเกษมประมาณ 100 เมตร ได้เกิดเรื่องฮือฮาเป็นที่สนใจและวิพากษ์วิจารณ์แก่ประชาชนทั่วไปที่สัญจรผ่านไปมาเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่หน้าบ้านหลังดังกล่าวได้ขึ้นป้ายไวนีลขนาดใหญ่ความยาว 4 เมตร ความกว้าง 1 เมตร พร้อมระบุข้อความ “ประกาศบ้านหลังนี้โดนขโมยเข้าลักทรัพย์ 4 ครั้งแล้ว แต่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมดำเนินคดีได้แม้แต่ครั้งเดียว ขอยกย่องในความสามารถของท่านมวลมหาโจรจริงๆ” และอีกข้อความด้านล่าง “ข้อมูลนี้ใช้ประกอบการตัดสินใจของผู้ที่คิดจะประกอบอาชีพหรืออยู่อาศัยในพื้นที่นี้” ส่วนที่ประตูม้วนด้านหน้าร้านติดป้ายป้ายไวนีลขนาด กว้างยาว 1X1 เมตร และมีข้อความว่า “ปิดหนีโจรชั่วคราว ท้องที่นี้โจรเยอะมาก”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวทราบชื่อ นายสมโภชน์ จันทร์ทับ 53 ปี ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องขึ้นป้ายข้อความขนาดใหญ่ดังกล่าวจนเป็นที่สนใจและวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวางว่าตนเปิดร้านขายของชำมานานหลายปี พอช่วงค่ำตนก็จะปิดร้านและอยู่อาศัยเข้านอนที่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ด้านหลังร้านขายของชำห่างกันประมาณ 10 เมตร แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ช่วงหลังราว 1 ปีที่ผ่านมาได้ถูกโจรเข้าไปงัดแงะร้านขายของชำตนถึง 4 ครั้ง ได้ทรัพย์สินไปทั้งหมดเกือบ 1 แสนบาท โดยครั้งล่าสุดเมื่อกลางดึกวันที่ 24 เม.ย. 57 ที่ผ่านมาถูกโจรงัดร้านเข้าไปลักทรัพย์สิน เช่น เบียร์กระป๋อง สุรา บุหรี่ และเงินในลิ้นชัก รวมมูลค่ากว่า 2 หมื่นบาท โดยพฤติกรรมของคนร้ายจะใช้คีบตัดกรงเหล็ก และงัดประตูเข้าไปในร้านแล้วขโมยทรัพย์สินต่างๆในร้าน ถึงแม้ว่าตนจะพยามหาวิธีป้องกันอย่างเต็มที่แล้วก็ตามแต่ก็ไม่พ้นความสามารถของคนร้าย
นายสมโภชน์กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกน้อยใจอย่างมากคือ หลังจากถูกโจรงัดแงะเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในร้านค้าของตนทั้ง 4 ครั้ง ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ท่าแซะ แต่ไม่เคยจับกุมคนร้ายได้แม้แต่ครั้งเดียว และยังไม่เคยได้รับการติดต่อกลับหรือทราบความคืบหน้าใดๆ อีกเลย โดยครั้งล่าสุดตนถูกงัดร้านกลางดึกและมารู้เอาช่วงเปิดร้านตอนเช้าของวันที่ 25 เม.ย. 57 ต่อมาช่วง 8 โมงเช้าวันเดียวกันตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.ท่าแซะ มีสิบเวรรับเรื่องลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แล้วบอกให้ตนกลับไปรอร้อยเวรที่ร้าน ตนรอทั้งวันก็ไม่มีตำรวจคนไหนมา และได้โทรศัพท์เข้าไปแจ้งที่ 191 ถึง 2 ครั้ง เพื่อสอบถามและย้ำให้ร้อยเวรเข้ามาที่เกิดเหตุเนืองจากตนรออยู่ แต่ในที่สุดก็ไม่มีตำรวจนายใดมาเลย กระทั่งอีกวันตอนสายๆ ของวันที่ 26 เม.ย. 57 มีร้อยเวรเข้ามาถ่ายรูป และแค่สอบถามเล็กๆ น้อยๆ ไม่มีการเก็บรอยนิ้วมือแฝงของโจรแต่อย่างใด จึงสร้างความไม่มั่นใจให้กับตนว่าตำรวจจะเอาหลักฐานอะไรไปจับตัวโจรได้อีกเช่นเคย ตนจึงหมดหนทางที่จะพึ่งพาเจ้าหน้าที่ จึงต้องขึ้นป้ายดังกล่าว
นายสมโภชน์ยังกล่าวอีกว่า ในพื้นที่ ม.14 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ มีเหตุแก๊งลักเล็กขโมยน้อยออกอาละวาดอยู่เป็นประจำ จนชาวบ้านเอือมระอากันทั้งหมู่บ้าน ไม่รู้จะหาวิธีป้องกันอย่างไรแล้ว แก๊งมิจฉาชีพพวกนี้ออกอาละวาดลักขโมยเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่อุปกรณ์เครื่องมือทางการเกษตร หมากตากแห้ง ยางพาราแผ่น จักรยานยนต์ งัดแงะทรัพย์สินภายในบ้าน และขโมยแม้กระทั่งกางเกงใน เสื้อยกทรงของผู้หญิง ชาวบ้านอยู่กันไม่เป็นสุขเพราะโดนกันเกือบถ้วนหน้า จึงต้องใช้วิธีขึ้นป้ายยกย่องในความสามารถของมวลมหาโจรดังกล่าว