ยะลา - เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้นำร่องนโยบายให้ข้าราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนาที่ตนนับถือ พร้อมสานสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการกับประชาชน
สืบเนื่องจากการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2556-2557 แผนปฏิบัติการที่ 4 ได้กำหนดแผนพัฒนาคนและสังคมให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม ชาติพันธุ์ ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
รวมทั้งการสนับสนุนส่งเสริมองค์กรทางศาสนาทุกศาสนาให้มีความเข้มแข็งและมีบทบาทในการทำนุบำรุงศาสนา เพื่อให้สถาบันทางศาสนาเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและแหล่งเรียนรู้ทางศาสนา ซึ่งการปฏิบัติศาสนกิจเป็นหนทางที่สำคัญที่จะส่งเสริมให้ศาสนิกชนมีการน้อมนำหลักธรรมไปสู่การปฏิบัติ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มีนโยบายเชิญชวนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกท่านร่วมกันปฏิบัติศาสนกิจเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของศาสนิกชน และเป็นองค์กรที่ส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัดได้มีโอกาสปฏิบัติศาสนกิจตามศรัทธา รวมทั้งเป็นการทำนุบำรุงศาสนาและพัฒนาให้เกิดความสุข มีคุณธรรม เห็นควรผ่อนปรนเวลาปฏิบัติงาน
โดยข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ที่นับถือศาสนาพุทธมีจำนวนกว่า 72,000 คน ร่วมปฏิบัติศาสนกิจ ปฏิบัติธรรม ถือศีล 5 ถวายภัตตาหารเพลที่วัดในทุกวันพระ ตั้งแต่เวลา 09.00-11.30 น.
ในส่วนของศาสนาอิสลาม ซึ่งมีพี่น้องประชาชนอยู่ในพื้นที่กว่าร้อยละ 80 โดยข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐที่นับถือศาสนาอิสลามมีจำนวนกว่า 33,000 คน เชิญร่วมปฏิบัติศาสนกิจละหมาด (Sembahyang Jumat) ที่มัสยิดในทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 12.30-14.30 น.
วานนี้ (28 เม.ย. 2557 เวลา 10.00 น.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นับถือศาสนาพุทธ โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้อำนวยการสำนัก/กอง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมปฏิบัติศาสนกิจ โดยการถวายภัตตาหารเพลและฟังธรรม ณ วัดเมืองยะลา พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เนื่องในวันพระ
นอกจากนี้ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังได้มอบคัมภีร์วิสุทธิมรรค ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดปากน้ำ ซึ่งเป็นคำสอนและแนวทางปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้า แก่พุทธศาสนิกชนอีกด้วย
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯ ศอ.บต. กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอกราบนมัสการพระคุณเจ้า เรียนญาติโยมที่เคารพรักทุกท่าน วันนี้พวกเราพี่น้องชาวไทยพุทธ ซึ่งรวมไปถึงชาวไทยพุทธที่เป็นข้าราชการและประชาชน ได้มาร่วมทำบุญ ฟังธรรม เนื่องในวันพระ จึงถือโอกาสเชิญชวนพี่น้องข้าราชการชาวไทยพุทธร่วมปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนา โดยเฉพาะศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มาร่วมกันทำบุญในวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งจะได้เป็นช่องทางหนึ่งในการพบปะพูดคุยกันระหว่างข้าราชการกับประชาชน
ในส่วนของพี่น้องชาวมุสลิมก็เช่นเดียวกัน ให้มีการปฏิบัติศาสนกิจโดยการละหมาดในทุกวันศุกร์ ตนขอภาวนาตัวที่จะฟื้นฟูด้านจิตใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนำศาสนาเข้ามาเป็นตัวช่วยในการยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งยาที่จะลดความแตกแยกได้คือ “ความสามัคคี” เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องดูแลทุกศาสนิกให้มีความเสมอภาคและมีความเท่าเทียมกัน
ด้านพระครูศรีธรรมทัศน์ รองเจ้าอาวาสวัดเมืองยะลา/เจ้าคณะอำเภอเมืองยะลา แสดงพระธรรมเทศนาว่า อยากให้พุทธศาสนิกชนนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติ เช่น อัตตา หิ อัตตโน นาโถ หมายถึง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน คือการจะทำอะไรก็ตามควรที่จะใช้ความสามารถของตนและการพัฒนาตัวเองด้วยตัวเอง หรือความเพียรพยายามที่จะต้องฝึกฝนตัวเองให้ได้ดี
นอกจากนี้แล้ว พระพุทธเจ้ายังตรัสไว้ว่า ควรรำลึกถึงพระรัตนตรัย ประกอบด้วย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งเป็นที่พึงทางใจที่เราจะต้องนำคำสั่งสอนมาเผยแพร่ เมื่อคำสั่งสอนเกิดความศรัทธาและเลื่อมใสแล้ว เราก็จะสามารถกำจัดกิเลสได้ และการบรรเทาความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้เบาบางลง เราก็สามารถนำความสุขให้เกิดขึ้นได้ ขณะเดียวกัน เราจะต้องมีวิธีการปรับทุกข์ การทำจิตให้สงบนิ่ง และการทำจิตให้เป็นสมาธิมั่นคง ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้น ซึ่งวันนี้ญาติโยมได้มาทำบุญ บริจาคทาน ซึ่งทำให้จิตใจสบาย ขาวสะอาด และบริสุทธิ์ เพราะบุญจะสำเร็จได้ด้วยการให้ทาน