ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวบ้านอ่าวบางเทา ยังเดือดร้อนเช่นเดิม น้ำไหลลงทะเลอีกระลอก ทางการลงแก้ไขน้ำเสียยังไม่คืบหน้า สภาพน้ำกลับแย่กว่าเก่า ทำคนพื้นที่ไม่กล้าสัมผัสน้ำ นักท่องเที่ยวหนีหาย ขณะที่นายก อบต.ลั่นเดินหน้าแก้ปัญหาเต็มสูบ ส่วนโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียดำเนินการไปแล้ว 30%
วันนี้ (25 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อติดตามการแก้ปัญหาน้ำเสียบริเวณชายหาดหน้าที่ทำการชมรมประมงพื้นบ้านอ่าวบางเทา หมู่ที่ 1 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตหลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบสภาพน้ำ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีน้ำเสียจำนวนมากไหลลงสู่ทะเลหาดบางเทา จนทำให้น้ำทะเลบริเวณดังกล่าวเน่าเสีย เป็นสีดำ ส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปทั่วบริเวณ
จากการลงพื้นที่พบว่า ปริมาณน้ำเสียในคลองบางเทามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น น้ำมีสีดำคล้ำ มีฟองอากาศผุดขึ้นเป็นระยะๆ และส่งกลิ่นเหม็นคล้ายๆ แก๊ส นั่งอยู่บริเวณนั้นนานๆ จะมีอาการแสบจมูกแสบตา ซึ่งน้ำเสียที่ออกมาจากคลองบางเทา ไหลลงทะเลในครั้งก่อน จะไหลไปทางฝั่งที่จอดเรือของชมรมผู้ประกอบการเรือหางยาว จนชาวบ้านเดือดร้อนต้องออกมาร้องเรียนว่าเจ็บป่วยไปหลายราย ให้ทางการลงมาตรวจสอบโดยด่วน แต่ล่าสุด น้ำเสียที่ไหลลงทะเลกลับเจอลมเปลี่ยนทิศไหลไปทางฝั่งชายหาดหน้าโรงแรม ซึ่งเป็นบริเวณที่มีนักท่องเที่ยวออกมาเล่นน้ำกันมากมาย แต่ตอนนี้กลับไม่มีนักท่องเที่ยวกล้าลงเล่นน้ำเลย เพราะกลัวจะเกิดอาการคันจากการสัมผัสน้ำเสีย
ในพื้นที่บางเทา มีสถานประกอบการที่เป็นที่พักอาศัยทั้งหมด จำนวน 16 แห่ง มีสถานประกอบการซึ่งมีขนาดใหญ่ จำนวน 2 แห่ง ที่ต้องทำรายงานบันทึกรายละเอียดของสถิติและข้อมูลซึ่งแสดงผลการทำงานของระบบบำบัดน้ำเสียของแหล่งกำเนิดมลพิษ (ทส.2) ตามความในมาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ให้แก่สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) เบื้องต้นพบว่า 1 ใน 2 แห่ง อาจมีข้อมูลไม่สอดคล้องกับรายงานที่ส่งมาว่ามีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงในคลอง ส่วนอีก 14 แห่งที่ไม่ต้องยื่น ทส.2 นั้น ทสจ.อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบว่าเข้าข่ายกระทำความผิด หรือเป็นต้นตอแหล่งน้ำเสียหรือไม่ โดยจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่ร้านค้าร้านอาหารในพื้นที่อีก 18 แห่ง ซึ่งมีการจดทะเบียนถูกต้อง 8 แห่ง ส่วนอีก 10 แห่ง ยังไม่ได้มีการจดทะเบียนนั้นทาง อบต.จะต้องเร่งทำความเข้าใจ และกำชับให้ดำเนินการก่อสร้างถังบำบัดมีการปล่อยลงสู่ลำคลอง
นักท่องเที่ยวบางรายไม่ลงเล่นน้ำ ก็ออกไปเดินเล่นบริเวณริมชายหาด เมื่อเดินมาถึงบริเวณที่มีน้ำเสียไหลลงทะเลยืนมองอยู่สักพักใหญ่ ไม่กล้าเดินลุยน้ำไป เห็นน้ำสีดำต่างเอามือปิดจมูก แล้วเดินหันหลังกลับไปทางเดิม ขณะเดียวกัน ชาวบ้านบางเทาต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำเสียในคลองบางเทา มีสภาพแย่ขึ้นทุกวัน มีทางการเข้ามาแก้ไขปัญหาแล้ว แต่สภาพน้ำก็ยังคงเป็นเช่นเดิม และดูจะแย่ไปกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
นาย จำนง กอแก้ว สมาชิกชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา กล่าวว่า ผลจากน้ำเสียทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำบริเวณหน้าอ่าวบางเทา เพราะกลัวจะเกิดอาการคัน ซึ่งก่อนหน้าน้ำเสียได้ไหลไปทางซ้ายของชายหาด ซึ่งเป็นจุดที่จอดเรือของชาวประมง ขณะนี้ลมเปลี่ยนทิศพัดไปอีกด้าน ทำให้น้ำเสียกระจายออกไปตามแนวชายหาดฝั่งที่มีโรงแรมตั้งอยู่ จนทำให้นักท่องเที่ยวหนีน้ำเสียไปเล่นน้ำบริเวณชายหาดลายันแทน ปกติช่วงเวลาประมาณเที่ยงวันจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากออกมาเล่นน้ำหน้าโรงแรม ขณะนี้มีจำนวนน้อยมาก บางรายเดินเล่นตามแนวชายหาด เมื่อมาพบน้ำเสียก็ต้องเดินวกกลับทันที นอกจากนี้ ยังพบว่าน้ำเสียได้ทวีความรุนแรงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากยังไม่ถึงช่วงน้ำขึ้นสูง น้ำเสียจึงไม่ได้ระบายออก ทำให้เกิดการหมักหมม และเน่าเสียอย่างรุนแรง ประกอบกับโรงแรม และสถานประกอบการยังคงมีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีหน่วยงานต่างๆ ลงมาตรวจสอบ และแก้ปัญหาแต่ก็ยังไม่เป็นผล
ด้านนายมาแอน สำราญ นายก อบต.เชิงทะเล กล่าวว่า ทาง อบต.เชิงทะเล ได้ลงตรวจสอบพื้นที่พร้อมด้วย นายไมตรี อินทุสูต ผู้ว่าราชการจังหวัดเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ทาง อบต.เชิงทะเล ได้เร่งดำเนินการไปแล้ว 2 ส่วน คือ การเร่งสำรวจสถานประกอบการ และบ้านเรือนที่เป็นแหล่งน้ำเสียใหม่ตลอดแนวคลองบางเทา รวมถึงประชาสัมพันธ์ไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียเพราะผลกระทบจะส่งผลต่อผู้ประกอบการเอง ส่วนที่สองได้ใช้จุลินทรีย์ (EM) พ่นในจุดที่น้ำนิ่ง แต่พบว่าการใช้วิธีดังกล่าวไม่ได้ผล เพราะในคลองมีน้ำเค็มผสมอยู่ และส่งผลให้น้ำเน่าเสียเพิ่มขึ้นอีก ขณะนี้ได้ประสานกับสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพื่อน้ำสารตัวใหม่เข้าใช้ ซึ่งจะเริ่มทดสอบในวันอังคารที่ 29 เมษายนนี้ และอีก 1 วิธีการที่กำลังดำเนินการไปแล้วในวันนี้ คือ การขุดหลุมใกล้ลำคลองเพื่อตักตะกอนน้ำเสียขึ้นมาทิ้งพร้อมทั้งเพิ่มความเข้มในการตรวจตราไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสีย
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้น ทาง อบต.เชิงทะเล ได้งบประมาณ จำนวน 320 ล้านบาท เพื่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ขณะนี้ผู้รับเหมาได้ดำเนินงานไปแล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งล่าช้า คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายใน 2-3 ปี นอกจากนี้ ยังได้อนุมัติงบประมาณอีก 15 ล้านบาท เพื่อจัดทำเขื่อนกั้นคลอง ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร เพื่อช่วยแก้ปัญหาการปล่อยน้ำเสีย และกันการพังทลาย ขณะนี้อยู่ระหว่างประมูลหาผู้รับจ้าง
นอกจากนี้ นายก อบต.เชิงทะเล ยังได้ฝากเตือนนักท่องเที่ยว ประชาชน และชาวประมงที่ต้องสัมผัสกับน้ำหากมีแผลควรหลีกเลี่ยงการลงน้ำ ถ้าเลี่ยงไม่ได้เมื่อขึ้นจากน้ำควรล้างด้วยน้ำสะอาดทันที เนื่องจากข้อมูลจากสำนักสิ่งแวดล้อม ภาคที่ 15 ภูเก็ต ระบุว่า จากการวัดค่าบีโอดีของน้ำในคลองบางเทา บริเวณต้นน้ำนั้นมีค่าบีโอดีถึง 10 มิลลิกรัมต่อลิตร และที่บริเวณปลายน้ำที่ไหลลงชายหาด และทะเลอยู่ที่ประมาณ 5 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งโดยปกติจะต้องมีค่าบีโอดีไม่เกิน 2 มิลลิกรัมต่อลิตร จึงเกินมาตรฐานมาก