xs
xsm
sm
md
lg

คนร้ายโหดยิงถล่ม 5 นัดหนุ่มสวนปาล์มที่ชุมพรดับคาบ้านพัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชุมพร - คนร้ายรัว 5 นัด ฆ่าโหดหนุ่มสวนปาล์มที่ชุมพร ตำรวจมุ่งประเด็นแอบถ้ำมองสาวๆ ในหมู่บ้าน คาดคนก่อเหตุน่าจะมีความโกรธแค้น พบมีร่องรอยใช้ของมีคมฟันที่บริเวณแผ่นหลังของผู้ตายเป็นรูปกากบากด้วย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (25 เม.ย.) ร.ต.ท.ไพรัตน์ สิงห์พรม ร้อยเวร สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงที่บ้านเลขที่ 46 ม.14 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก. พ.ต.ท.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สุริยนต์ ชมมี สวป. พ.ต.ท.ณรงค์ บัวอินทร์ พงส.ชำนาญการพิเศษ ชุดสืบสวนพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ห่างจากศูนย์ประชุมหมู่บ้านเพียง 100 เมตร ที่บนเตียงนอนภายในบ้านพบศพทราบชื่อคือ นายวีระพงษ์ สุขเจริญ อายุ 37 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว สภาพศพนุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ไม่สวมเสื้อ นั่งก้มหน้าหัวพิงผนังห้อง บริเวณกลางแผ่นหลังมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเป็นรูปกากบาท ส่วนที่โหนกแก้มขวา เบ้าตาซ้าย กลางอก ต้นแขนขวา เข่าซ้าย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. รวม 5 นัด เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชม. เลือดไหลนองเต็มพื้น ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 4 นัด ตกอยู่บนพื้นใกล้ที่เกิดเหตุจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นางลี สุขเจริญ อายุ 66 ปี อาของผู้เสียชีวิต มีบ้านอาศัยอยู่ใกล้ๆ ที่เกิดเหตุให้การว่า นายวีระพงษ์ ผู้ตายอาศัยอยู่บ้านหลังเกิดเหตุเพียงคนเดียว มีอาชีพทำสวนปาล์ม โดยช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนได้ยินเสียงปืนดังรัวหลายนัด แต่ไม่มีใครกล้าออกมาดู และคิดว่าอาจจะเป็นคนมาล่าสัตว์บริเวณดังกล่าว จนเมื่อตอนสายออกมาหา นายวีระพงษ์ ถึงกับตกใจสุดชีวิต เนื่องจากพบว่าเป็นศพถูกฆ่าตายอยู่ในบ้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

สำหรับสาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่ าอาจจะมาจากเรื่องส่วนตัวของผู้ตาย เพราะผู้ตายมีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อย และชอบแอบถ้ำมองผู้หญิงที่อาบน้ำตามห้องน้ำ ระหว่างเกิดเหตุช่วงกลางคืนคาดว่า นายวีระพงษ์ ผู้ตายคงไปทำอะไรบางอย่างกับคนในหมู่บ้าน แล้วทำให้เกิดความโกรธสุดขีดถึงกับไล่ตามเข้าไปยิงถึงในบ้าน และก่อนหลบหนีได้ใช้มีดปลายแหลมฟันซ้ำกลางหลังอีก 2 แผล โดยตั้งใจให้เป็นรูปกากบาทแล้วหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งต่อไป

 
 



กำลังโหลดความคิดเห็น