ชุมพร - วัยรุ่นโหดย่องลักทรัพย์กลางดึกร้านขายของชำของผู้ใหญ่บ้านคนสนิท “ส.ส.ลูกหมี” ใช้มีดฟันลูกสาวผู้ใหญ่บ้านกว่า 30 แผล ดับอนาถคาห้องน้ำ ขณะที่แม่วิ่งออกมาร้องให้คนช่วย ถูกฟันโคม่าอีกคน
เมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ (8 ก.พ.) พ.ต.ท.จิโรจน์ สาธุการ สวส.สภ.นาสัก ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร รับแจ้งจากโรงพยาบาลทุ่งตะโก ว่า มีเหตุคนถูกฆ่าเสียชีวิต และบาดเจ็บถูกนำมารักษาที่โรงพยาบาล จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปโรงพยาบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุชาติ นวลปาน ผกก.สภ.นาสัก หน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน-ทุ่งตะโก ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลทุ่งตะโก พบร่างของ น.ส.สุนันทา วรรณวิเศษ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 507/1 หมู่ที่ 10 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร นอนเสียชีวิตอยู่ จากการชันสูตรบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมที่ใบหน้า ลำคอ ลำตัว แขน เป็นแผลฉกรรจ์ทั่วร่างกายเกือบ 30 แผล นอกจากนั้น ยังมี นางธัญญาพร วรรณวิเศษ อายุ 48 ปี มารดาของ น.ส.สุนันทา ผู้เสียชีวิต ถูกฟันด้วยของมีคมชนิดเดียวกันเข้าที่แขน และ ใบหน้าตามลำตัวรวม 10 กว่า แผล อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน แพทย์ต้องนำตัวส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ในตัวเมืองชุมพร ช่วยเหลือชีวิตอย่างเร่งด่วน
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ นายอุทัย วรรณวิเศษ อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ต.นาสัก ซึ่งเป็นมือขวาคนสนิทใกล้ชิดของ นายชุมพล จุลใส หรือ “ส.ส.ลูกหมี” แกนนำ กปปส. และอยู่หมู่บ้านเดียวกันทราบว่า น.ส.สุนันทา ผู้เสียชีวิตเป็นลูกสาวตน ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาสวี ส่วนนางธัญญาพร ผู้บาดเจ็บเป็นภรรยาตนเอง มีอาชีพเปิดร้านขายของชำ ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ซึ่งขณะนั้นตนไม่ได้นอนที่บ้านเนื่องจากไปติดต่อธุระ และนอนค้างอยู่ในตัว อ.สวี ได้รับแจ้งจากญาติ และเพื่อนบ้านว่า เกิดเหตุร้ายกับลูกสาว และภรรยาของตนที่บ้านพัก และใช้เป็นที่ทำการของผู้ใหญ่บ้าน ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 507/1 หมู่ที่ 10 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร และทั้ง 2 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทุ่งตะโกแล้ว ตนจึงตามมาดู
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้าน 2 ชั้น โดยที่หน้าบ้านมีป้ายขนาดใหญ่เขียนว่า “ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน” และบริเวณชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำตั้งอยู่กลางชุมชนของหมู่บ้าน ตรวจสอบที่บริเวณห้องนอนชั้นล่างซึ่งเป็นห้องของ น.ส.สุนันทา ผู้ตาย มีคราบเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่ว และหยุดเป็นทางยาวเข้าไปในห้องน้ำซึ่งอยู่ห่างกันราว 5 เมตร โดยภายในห้องน้ำมีกองเลือดแดงฉานไปทั่ว และมีร่องรอยคล้ายดิ้นทุรนทุรายของ น.ส.สุนันทา ก่อนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำดังกล่าว ส่วนบริเวณลานดินหน้าบ้านพบกองเลือดกองใหญ่อยู่บนพื้น เจ้าหน้าที่จึงกั้นสถานที่เกิดเหตุไว้เพื่อนตรวจสอบหาหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ น.ส.สุนันทา ลูกสาวนอนอยู่ในห้องนอนชั้นล่าง ส่วนนางธัญญาพร ผู้เป็นแม่นอนอยู่ชั้นบน ได้มีคนร้ายงัดประตูหลังเข้าไปภายในบ้านหลังดังกล่าว คาดว่า น.ส.สุนันทา ซึ่งนอนอยู่ชั้นล่างได้ยินเสียง และตื่นขึ้นมาจึงเปิดประตูห้องนอนเดินออกไปดู และเห็นคนร้ายแบบเผชิญหน้ากันจึงตกใจ และร้องตะโกนเสียงดังลั่นให้คนช่วยเหลือ คนร้ายจึงใช้มีฟันไปที่ร่างของ น.ส.สุนันทา ทำให้ น.ส.สุนันทา วิ่งเข้าไปในห้องนอน คนร้ายได้ไล่ตามเข้าไปฟันแบบไม่ยั้งมือ จนได้รับบาดเจ็บ และดิ้นทุรนทุรายวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำเพื่อจะล็อกกลอนประตูแต่ไม่ทัน จึงถูกคนร้ายตามฟันจนตายคาที่อยู่ในห้องน้ำ
ขณะเดียวกัน นางธัญญาพร ผู้เป็นแม่ได้ยินเสียงตะโกนร้องของลูกสาว จึงเดินลงมาดู และเห็นคนร้ายกำลังใช้มีดฟันไปที่ร่างของ น.ส.สุนันทา ลูกสาวตนเองอย่างโหดเหี้ยม จึงวิ่งไปเปิดประตูบ้านออกไปร้องตะโกนให้คนในละแวกใกล้เคียงมาช่วยเหลือ แต่ถูกคนร้ายวิ่งตามออกไปแล้วใช้มีดฟันไปที่ร่างของ นางธัญญาพ รอย่างไม่ปรานีกว่า 10 แผล จนล้มฟุบแน่นิ่งกองกับพื้น จากนั้นคนร้ายได้วิ่งไปกับความมืด ต่อมา ได้มีบรรดาญาติๆ และชาวบ้านที่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือพากันออกมาดู และพบว่าทั้ง 2 แม่ลูก ถูกคนร้ายฟันได้บาดเจ็บสาหัส จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล แต่ น.ส.สุนันทา นั้นได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุก่อนแล้ว แต่ญาติๆ และชาวบ้านคิดว่ายังมีชีวิตอยู่จึงได้นำไปส่งโรงพยาบาล และแจ้งตำรวจดังกล่าว
สำหรับความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปที่ พ.ต.อ.สุชาติ นวลปาน ผกก.สภ.นาสัก ได้รับการเปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน เป็นเยาวชน ชื่อเดียร์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เป็นวัยรุ่นในหมู่บ้าน โดยนายเดียร์ มีพฤติกรรมตั้งตนเป็นหัวหน้าแก๊ง มีลูกน้องในทีมงาน 3-4 คน ออกโจรกรรมทรัพย์สินตามบ้านเรือนของประชาชน ทั้งในพื้นที่ และนอกพื้นที่ ก่อนเกิดเหตุ นายเดียร์ กับนายอาร์ เพื่อนร่วมทีม ได้ไปซื้อเหล้ามานั่งดื่มกินกันบริเวณบ้านพัก แล้ววางแผนจะเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านร้านขายของชำของ นางธัญญาพร และ น.ส.สุนันทา 2 แม่ลูก ปรากฏว่า ช่วงเวลาประมาณตี 3 กว่า นายเดียร์ ได้ชวนนายอาร์ ออกไปลักทรัพย์ที่บ้านหลังดังกล่าวตามที่วางแผนกันไว้ แต่นายอาร์ มีอาการเมาเหล้าหนักจึงลุกไปไม่ไหว ทำให้นายเดียร์ ตัดสินใจไปคนเดียว โดยเอามีดสปาต้าติดตัวไปด้วย
นายเดียร์ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า หลังจากงัดประตูเข้าไปในบ้านหลังเกิดเหตุได้แล้ว แค่เพียงต้องการจะลักทรัพย์สินเท่านั้น ไม่ได้หวังจะข่มขืน น.ส.สุนันทา แต่อย่างได้ แต่ที่ต้องลงมือฆ่า น.ส.สุนันทา นั้นเนื่องจากได้ยินเสียงตนเข้าไปลักทรัพย์สินภายในบ้าน แล้วเปิดประตูห้องนอนออกมาดูและเห็นตน น.ส.สุนันทา ได้ตะโกนเสียงดังลั่นร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงใช้มีดสปาต้าไล่ฟันอย่างไม่ยั้งมือ และนางธัญญาพร ที่นอนอยู่ชั้นบนได้ยินเสียงจึงวิ่งลงมาดูและเห็นตนเข้า ได้วิ่งไปเปิดตูประตูบ้านออกไปร้องตะโกนให้คนช่วย ตนจึงวิ่งไล่ตามไปฟันจนทรุดกองอยู่กับพื้นหน้าบ้าน แล้วตนเองก็ได้วิ่งออกมาจากที่เกิดเหตุ ระหว่างทางได้เอามีดสปาต้าไปโยนทิ้งลงในคลอง แล้วรีบกลับไปนอนอยู่ที่บ้าน และถูกตำรวจตามมาจับกุมดังกล่าว
เมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ (8 ก.พ.) พ.ต.ท.จิโรจน์ สาธุการ สวส.สภ.นาสัก ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร รับแจ้งจากโรงพยาบาลทุ่งตะโก ว่า มีเหตุคนถูกฆ่าเสียชีวิต และบาดเจ็บถูกนำมารักษาที่โรงพยาบาล จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปโรงพยาบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุชาติ นวลปาน ผกก.สภ.นาสัก หน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน-ทุ่งตะโก ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลทุ่งตะโก พบร่างของ น.ส.สุนันทา วรรณวิเศษ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 507/1 หมู่ที่ 10 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร นอนเสียชีวิตอยู่ จากการชันสูตรบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมที่ใบหน้า ลำคอ ลำตัว แขน เป็นแผลฉกรรจ์ทั่วร่างกายเกือบ 30 แผล นอกจากนั้น ยังมี นางธัญญาพร วรรณวิเศษ อายุ 48 ปี มารดาของ น.ส.สุนันทา ผู้เสียชีวิต ถูกฟันด้วยของมีคมชนิดเดียวกันเข้าที่แขน และ ใบหน้าตามลำตัวรวม 10 กว่า แผล อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน แพทย์ต้องนำตัวส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ในตัวเมืองชุมพร ช่วยเหลือชีวิตอย่างเร่งด่วน
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ นายอุทัย วรรณวิเศษ อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ต.นาสัก ซึ่งเป็นมือขวาคนสนิทใกล้ชิดของ นายชุมพล จุลใส หรือ “ส.ส.ลูกหมี” แกนนำ กปปส. และอยู่หมู่บ้านเดียวกันทราบว่า น.ส.สุนันทา ผู้เสียชีวิตเป็นลูกสาวตน ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาสวี ส่วนนางธัญญาพร ผู้บาดเจ็บเป็นภรรยาตนเอง มีอาชีพเปิดร้านขายของชำ ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ซึ่งขณะนั้นตนไม่ได้นอนที่บ้านเนื่องจากไปติดต่อธุระ และนอนค้างอยู่ในตัว อ.สวี ได้รับแจ้งจากญาติ และเพื่อนบ้านว่า เกิดเหตุร้ายกับลูกสาว และภรรยาของตนที่บ้านพัก และใช้เป็นที่ทำการของผู้ใหญ่บ้าน ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 507/1 หมู่ที่ 10 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร และทั้ง 2 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทุ่งตะโกแล้ว ตนจึงตามมาดู
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้าน 2 ชั้น โดยที่หน้าบ้านมีป้ายขนาดใหญ่เขียนว่า “ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน” และบริเวณชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำตั้งอยู่กลางชุมชนของหมู่บ้าน ตรวจสอบที่บริเวณห้องนอนชั้นล่างซึ่งเป็นห้องของ น.ส.สุนันทา ผู้ตาย มีคราบเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่ว และหยุดเป็นทางยาวเข้าไปในห้องน้ำซึ่งอยู่ห่างกันราว 5 เมตร โดยภายในห้องน้ำมีกองเลือดแดงฉานไปทั่ว และมีร่องรอยคล้ายดิ้นทุรนทุรายของ น.ส.สุนันทา ก่อนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำดังกล่าว ส่วนบริเวณลานดินหน้าบ้านพบกองเลือดกองใหญ่อยู่บนพื้น เจ้าหน้าที่จึงกั้นสถานที่เกิดเหตุไว้เพื่อนตรวจสอบหาหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ น.ส.สุนันทา ลูกสาวนอนอยู่ในห้องนอนชั้นล่าง ส่วนนางธัญญาพร ผู้เป็นแม่นอนอยู่ชั้นบน ได้มีคนร้ายงัดประตูหลังเข้าไปภายในบ้านหลังดังกล่าว คาดว่า น.ส.สุนันทา ซึ่งนอนอยู่ชั้นล่างได้ยินเสียง และตื่นขึ้นมาจึงเปิดประตูห้องนอนเดินออกไปดู และเห็นคนร้ายแบบเผชิญหน้ากันจึงตกใจ และร้องตะโกนเสียงดังลั่นให้คนช่วยเหลือ คนร้ายจึงใช้มีฟันไปที่ร่างของ น.ส.สุนันทา ทำให้ น.ส.สุนันทา วิ่งเข้าไปในห้องนอน คนร้ายได้ไล่ตามเข้าไปฟันแบบไม่ยั้งมือ จนได้รับบาดเจ็บ และดิ้นทุรนทุรายวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำเพื่อจะล็อกกลอนประตูแต่ไม่ทัน จึงถูกคนร้ายตามฟันจนตายคาที่อยู่ในห้องน้ำ
ขณะเดียวกัน นางธัญญาพร ผู้เป็นแม่ได้ยินเสียงตะโกนร้องของลูกสาว จึงเดินลงมาดู และเห็นคนร้ายกำลังใช้มีดฟันไปที่ร่างของ น.ส.สุนันทา ลูกสาวตนเองอย่างโหดเหี้ยม จึงวิ่งไปเปิดประตูบ้านออกไปร้องตะโกนให้คนในละแวกใกล้เคียงมาช่วยเหลือ แต่ถูกคนร้ายวิ่งตามออกไปแล้วใช้มีดฟันไปที่ร่างของ นางธัญญาพ รอย่างไม่ปรานีกว่า 10 แผล จนล้มฟุบแน่นิ่งกองกับพื้น จากนั้นคนร้ายได้วิ่งไปกับความมืด ต่อมา ได้มีบรรดาญาติๆ และชาวบ้านที่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือพากันออกมาดู และพบว่าทั้ง 2 แม่ลูก ถูกคนร้ายฟันได้บาดเจ็บสาหัส จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล แต่ น.ส.สุนันทา นั้นได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุก่อนแล้ว แต่ญาติๆ และชาวบ้านคิดว่ายังมีชีวิตอยู่จึงได้นำไปส่งโรงพยาบาล และแจ้งตำรวจดังกล่าว
สำหรับความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปที่ พ.ต.อ.สุชาติ นวลปาน ผกก.สภ.นาสัก ได้รับการเปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน เป็นเยาวชน ชื่อเดียร์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เป็นวัยรุ่นในหมู่บ้าน โดยนายเดียร์ มีพฤติกรรมตั้งตนเป็นหัวหน้าแก๊ง มีลูกน้องในทีมงาน 3-4 คน ออกโจรกรรมทรัพย์สินตามบ้านเรือนของประชาชน ทั้งในพื้นที่ และนอกพื้นที่ ก่อนเกิดเหตุ นายเดียร์ กับนายอาร์ เพื่อนร่วมทีม ได้ไปซื้อเหล้ามานั่งดื่มกินกันบริเวณบ้านพัก แล้ววางแผนจะเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านร้านขายของชำของ นางธัญญาพร และ น.ส.สุนันทา 2 แม่ลูก ปรากฏว่า ช่วงเวลาประมาณตี 3 กว่า นายเดียร์ ได้ชวนนายอาร์ ออกไปลักทรัพย์ที่บ้านหลังดังกล่าวตามที่วางแผนกันไว้ แต่นายอาร์ มีอาการเมาเหล้าหนักจึงลุกไปไม่ไหว ทำให้นายเดียร์ ตัดสินใจไปคนเดียว โดยเอามีดสปาต้าติดตัวไปด้วย
นายเดียร์ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า หลังจากงัดประตูเข้าไปในบ้านหลังเกิดเหตุได้แล้ว แค่เพียงต้องการจะลักทรัพย์สินเท่านั้น ไม่ได้หวังจะข่มขืน น.ส.สุนันทา แต่อย่างได้ แต่ที่ต้องลงมือฆ่า น.ส.สุนันทา นั้นเนื่องจากได้ยินเสียงตนเข้าไปลักทรัพย์สินภายในบ้าน แล้วเปิดประตูห้องนอนออกมาดูและเห็นตน น.ส.สุนันทา ได้ตะโกนเสียงดังลั่นร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงใช้มีดสปาต้าไล่ฟันอย่างไม่ยั้งมือ และนางธัญญาพร ที่นอนอยู่ชั้นบนได้ยินเสียงจึงวิ่งลงมาดูและเห็นตนเข้า ได้วิ่งไปเปิดตูประตูบ้านออกไปร้องตะโกนให้คนช่วย ตนจึงวิ่งไล่ตามไปฟันจนทรุดกองอยู่กับพื้นหน้าบ้าน แล้วตนเองก็ได้วิ่งออกมาจากที่เกิดเหตุ ระหว่างทางได้เอามีดสปาต้าไปโยนทิ้งลงในคลอง แล้วรีบกลับไปนอนอยู่ที่บ้าน และถูกตำรวจตามมาจับกุมดังกล่าว
