ชุมพร - ตำรวจชุมพร ซ้อมแผนเผชิญเหตุชิงตัวประกันเสมือนจริง โดยสมมติเหตุคนเมายาบ้าก่อเหตุใช้มีดจี้คอจับเด็กเป็นตัวประกันในโรงเรียน เพื่อความพร้อมในการปฎิบัติงานตามแผนยุทธวิธี
วันนี้ (23 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการซ่อมแผนชิงตัวประกันเสมือนจริงโดยสมมติเหตุให้ ร.ต.อ.ชนะภัย บุญนาค รอง สวป.สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจ 191 ว่าเกิดเหตุชายฉกรรจ์เมายาบ้าเกิดสติแตกใช้อาวุธมีดจี้คอจับเด็กเป็นตัวประกันอยู่ใต้ถุนอาคารเรียน 4 ชั้น ภายในโรงเรียนเทศบาลท่าตะเภา เขตเทศบาลเมืองชุมพร จึงรายงาน พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผกก.สภ.เมืองชุมพร พร้อมนำกำลังรุดไปบัญชาการด้วยตนเอง
ในที่เกิดเหตุอยู่ใต้อาคารเรียนภายในโรงเรียนเทศบาลบ้านท่าตะเภา พบชายอายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อยืดคอกลมสีเทาดำ กางเกงยีนส์สีดำ สูงประมาณ 160 ซม. ใช้มือขวาล๊อกคอ และมีมีดปลายแหลมจ่อยู่ที่คอเด็กนักเรียนชาย อายุ 11 ปี พร้อมตะโกนห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และใครเข้าใกล้อย่าเด็ดขาด โดยชายคนดังกล่าวอยู่ในสภาพสะลึมสะลือคล้ายคนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้กันบรรดาไทยมุงออกจากพื้นที่เพื่อลดความกดดันของคนร้าย พร้อมพยายามเข้าไปเจรจาต่อรองแต่ไม่เป็นผล พร้อมขู่จะทำร้ายตัวประกันตลอดเวลา จึงได้ประสานไปยังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ “ชุดราชเดช” ซึ่งเป็นตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษด้านป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทุกรูป เข้ามาร่วมวางแผนปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันในครั้งนี้
พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผกก.สภ.เมืองชุมพร ซึ่งได้เดินทางมาควบคุมเหตุการณ์ด้วยตนเองได้เข้าพูดเจรจากับคนร้าย และพยายามดึงความสนใจ โดยยินยอมทำตามข้อเรียกร้องของคนร้าย และจะไม่เอาเรื่องหายอมปล่อยตัวเด็กแล้วมาคุยกัน จนคนร้ายเริ่มใจอ่อนลดอารมณ์หงุดหงิดลง มือที่กำมีดจ่อคอตัวประกันลดจนต่ำลงมา ทำให้ตำรวจชุดราชเดช ซึ่งแอบซุ่มพรางตัวอยู่ข้างกำแพงได้บุกเข้าชาร์จตัวได้โดยละม่อม โดยตัวประกันไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผกก.สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่า สำหรับการจี้ตัวประกันในครั้งนี้เป็นการซ้อมแผนจำลองเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งเป็นการซ้อมเผชิญเหตุเสมือนจริง โดยนำเอาประสบการณ์เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วใน จ.ชุมพร มาเป็นสถานการณ์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายว่าใครควรจะอยู่ตรงไหน และจะต้องทำอะไร ตลอดจนจะใช้โอกาสไหนที่จะบุกเข้าช่วยตัวประกันให้ปลอดภัย หรือบาดเจ็บให้น้อยที่สุด ซึ่งจากการฝึกซ้อมเผชิญเหตุเสมือนจริงในครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้ทุกคนนำไปใช้ได้เมื่อเจอเหตุจริง