xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.เปิดพิธีฝึก “ยุทธวิธีปราบไพรีอริศัตรูพ่าย”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบ.ตร.เปิดพิธีฝึก “ยุทธวิธีปราบไพรีอริศัตรูพ่าย” พร้อมทั้งแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ตั้งแต่วันที่ 13-26 ธ.ค.ภายใต้ยุทธการ “ปฏิบัติการพิทักษ์ราษฎร์” ได้ผู้ต้องหาและของกลางหลายรายการ

วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 ร่วมกันเปิดพิธีฝึก “ยุทธวิธีปราบไพรีอริศัตรูพ่าย” เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอบรมพัฒนาชุดปฏิบัติการพิเศษปราบไพรีอริศัตรูพ่าย และกำลังเป็นชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วในการรักษาความสงบเรียบร้อยรับการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พร้อมทั้งแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ตั้งแต่วันที่ 13-26 ธ.ค.ภายใต้ยุทธการ “ปฏิบัติการพิทักษ์ราษฎร์” เน้นการจับกุม อาวุธปืน วัตถุระเบิด ยาเสพติด และผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่ง บช.ภ.1 ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกตรวจป้องกันเหตุในพื้นที่เสี่ยงและแหล่งมั่วสุม โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน พร้อมของกลาง 403 กระบอก กระสุน 2,683 นัด จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด จำนวน 2,523 ราย ของกลาง ยาบ้า 372,936 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนักรวม 4.41 กก.กัญชา 148 กก.และผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่า จำนวน 224 ราย

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า อยากจะกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถในการดูแลประชาชน ตั้งแต่เรื่องการจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุ การดูแลพื้นที่ที่มีการจัดงานเคานต์ดาวน์ เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางไปท่องเที่ยวมีความปลอดภัยสูงสุด โดยให้วางแผนปฏิบัติงานร่วมกับหลายหน่วยงาน โดยเน้นย้ำทุกสถานีให้มีความพร้อมบริการประชาชน

ด้าน พล.ต.ท.นเรศ กล่าวว่า การปล่อยแถวด้านการจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ครั้งนี้ เน้นให้เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญ 2 เรื่อง คือ เรื่องอาชญากรรม กับเรื่องการอำนวยความสะดวกจราจรให้ประชาชน ในเรื่องอาชญากรรม เราได้ส่งชุดปราบไพรีอริศัตรูพ่าย ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษของภาค 1 มีกำลังประมาณ 2 กองร้อย โดยให้ไปเสริมการปฏิบัติคุมพื้นที่เสี่ยง ที่อาจจะเกิดอันตรายกับประชาชน ส่วนเรื่องจราจร เราได้ริเริ่มแนวคิดจัดทีมแก้วิกฤตจราจรขึ้นเป็นครั้งแรกของ บช.ภ.1 เพราะเห็นว่า จะให้ตำรวจจราจรที่แต่ละที่มี 5-6 คน คอยดูแลแก้ปัญหานั้นมีข้อจำกัด เราจึงนำทีมขนาดใหญ่ที่มีทักษะและผ่านประสบการณ์ด้านจราจรไปดูแล โดยเน้น 3 จังหวัดรอบปริมณฑล คือ จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี โดยแบ่งเป็น 20 ทีมย่อย เพื่อไปดูตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง และสื่อสารกับประชาชนพร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตนคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาได้ และให้ประชาชนเห็นว่าตำรวจลงแรงช่วยแก้ปัญหา สำหรับจุดเสี่ยงนั้น ในช่วงขาออก กทม.มีถนนสายเอเชีย จะไปติดหนักบริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา และถนนพหลโยธิน ไปทางด้านสระบุรี รวมถึง จ.สมุทรปราการ แถวปากน้ำ จะมีปัญหาจราจรมาก

พล.ต.ท.นเรศ กล่าวอีกว่า การระงับเหตุร้ายแรงไม่เพียงพอ เพราะคนร้ายอาจใช้อาคารหลบซ่อน จับตัวประกัน หรือใช้รถเคลื่อนที่เร็วในการหลบหนีได้ ทำให้ยากต่อการติดตามจับกุม บช.ภ.1 จึงได้จัดฝึกเจ้าหน้าที่ชุดปราบไพรีฯขึ้น เพื่อทำการบุกทั้งด้านบนและล่าง โดยด้านบนจะมีเจ้าหน้าที่โรยตัวเข้าอาคาร พร้อมมีเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ และเฮลิคอปเตอร์บังคับติดตั้งกล้องไว้คอยจับภาพภายในอาคาร ส่วนด้านล่างก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวัง พร้อมบุกตลอดเวลา สำหรับการฝึกนั้นจะให้กำลังเจ้าหน้าที่ทุก สภ.ในสังกัด บช.ภ.1 เข้ารับการฝึกที่ค่ายนเรศวรทุกเดือน ฝึกครั้งละ 50 นาย ระยะเวลา 4 เดือน เมื่อฝึกเสร็จก็จะให้ปฏิบัติการในเหตุการณ์จริง โดยขณะนี้มีกำลังจากทุก สภ.จำนวน 2 กองร้อย ประมาณ 300 คน รถยนต์ และ จยย.ปฏิบัติการรวมกว่า 90 คัน





กำลังโหลดความคิดเห็น