ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เทศบาลตำบลฉลอง จ.ภูเก็ต สั่งระงับการก่อสร้างบันจี้จัมป์ ที่ซอยศาลเจ้ากวนอู หลังทดสอบระบบสายสลิงขาด ทำผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย จากการตรวจสอบพบมีการสร้างอาคารบันจี้จัมป์สูงเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตเพียง 12 เมตร แต่สร้างสูงถึง 52 เมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุเกิดจากความประมาท และความไม่พร้อมของระบบบันจี้จัมป์ รวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดเจ้าของต่อไป
จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุสายสลิงของบันจี้จัมป์ ชื่อ “PHUKET BUNGY JUMP” บริเวณซอยศาลเจ้ากวนอู ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก หมู่ที่ 1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขาดขณะหุ้นส่วน พร้อมด้วยช่าง และอาสาสมัครกระโดดบันจี้จัมป์ขึ้นไปทดสอบ ทำให้ตกลงมาเสียชีวิตคาที่ทันที 2 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (19 เม.ย.) นายสำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรีตำบลฉลอง พร้อมด้วย นายสิชล เหมือนเลื่อน วิศวกรโยธา รักษาการผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลฉลอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบโครงการก่อสร้างบั้นจี้จัมป์ที่เกิดเหตุดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวได้มีการปรับพื้นที่ และก่อสร้างอาคารสำนักงานจำนวน 1 หลัง และโครงเหล็กบั้นจี้จัมป์ 1 ต้น ขนาดความสูงประมาณ 52 เมตร รวมทั้งมีกระเช้าเหล็กสีเหลือมีหลังคาสีเขียวตั้งอยู่ใกล้กับโคนเสาเหล็กบันจี้จัมป์ ใกล้กับโครงเหล็กมีการขุดเป็นบ่อสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ โดยบริเวณทางเข้าจะมีป้ายบอกชื่อ “PHUKET BUNGY JUMP” ระบุเวลาเปิดให้บริการตั้งแต่ 09.00-18.00 น.
ภายหลังการตรวจสอบ นายสำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรีตำบลฉลอง เปิดเผยว่า สำหรับการก่อสร้างโครงการบันจี้จัมป์ดังกล่าว ทางผู้ประกอบการได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาการอย่างถูกต้อง โดยมีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารประกอบด้วย 1.คสล. 1 ชั้น จำนวน 1 หลัง เพื่อใช้เป็นอาคารสำนักงาน มีที่จอดรถ ที่กลับรถ และทางเข้าออกของรถ 2.ก่อสร้างอาคาร คสล. 1 ชั้น จำนวน 1 หลัง เพื่อใช้เป็นอาคารบริการ มีที่จอดรถ กลับรถ และทางเข้าออกของรถ 3.ก่อสร้างอาคาร คสล.เหล็ก จำนวน 1 หลัง เพื่อใช้เป็นบันจี้จัมป์ ความสูง 12 เมตร มีที่จอดรถ ที่กลับรถ และทางเข้าออกของรถ โดยทางเทศบาลตำบลฉลอง ออกใบอนุญาตเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา
ขณะการก่อสร้างบันจี้จัมป์ดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ยังไม่มีการยื่นขออนุญาตเปิดให้บริการแต่อย่างใด ซึ่งหากทางผู้ประกอบการยื่นขออนุญาตเปิดใช้ และให้บริการนักท่องเที่ยว ทางเทศบาลไม่สามารถที่จะอนุญาตให้ผู้ประกอบการใช้อาคารดังกล่าวได้ เนื่องจากขนาดบันจี้จัมป์ที่ก่อสร้างมีความสูงเกินกว่าที่ได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างต่อทางเทศบาล ซึ่งทางเทศบาลอนุญาตให้สร้างได้แค่ 12 เมตร แต่มีการก่อสร้างสูงถึง 52 เมตร โดยในช่วงที่ผู้ประกอบการยื่นขออนุญาตก่อสร้างนั้น ทางเทศบาลได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตผังเมืองสีเขียว ตามประกาศผังเมืองจังหวัดภูเก็ต เทศบาลอนุญาตให้ก่อสร้างในระดับความสูง 12 เมตรเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุในครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะเกิดจากความประมาท และมีการทดสอบในช่วงกลางคืน ส่วนการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และในเบื้องต้นทางเทศบาลจะทำหนังสือถึงผู้ประกอบการระงับการก่อสร้างไว้ก่อน และให้แก้ไขอาคารให้ถูกต้องตามที่ยื่นขออนุญาตไว้
ด้านนายสิชล เหมือนเลื่อน วิศวกรโยธา รักษาการผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลตำบลฉลอง กล่าวว่า ในช่วงของการก่อสร้างบันจี้จัมป์ดังกล่าว ทางเทศบาลได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านให้เข้ามาตรวจสอบการก่อสร้างครั้งหนึ่งแล้ว และทางเทศบาลก็ได้มาตรวจสอบ ในเบื้องต้นได้แจ้งด้วยวาจาให้ทางผู้ประกอบการปรับปรุงแก้ไขตัวอาคารบันจี้จัมป์ที่สูงกว่าที่ได้รับอนุญาตไปแล้ว จนกระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งการจะใช้อาคารดังกล่าวทางผู้ประกอบการจะต้องยื่นขออนุญาตจากทางเทศบาลก่อน ซึ่งถ้ายังไม่มีการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามที่ขออนุญาตไว้ก็ไม่สามารถอนุญาตให้ใช้อาคารดังกล่าวได้
ขณะที่ พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ (สบ 3) สภ.ฉลอง เปิดเผยว่า สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ในเบื้องต้นเกิดจากความประมาท และระบบของบันจี้จัมป์ที่ยังไม่พร้อม ซึ่งขณะนี้ได้เรียกพยานมาสอบปากคำไปแล้วหลายปาก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุสายสลิงของบันจี้จัมป์ ชื่อ “PHUKET BUNGY JUMP” บริเวณซอยศาลเจ้ากวนอู ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก หมู่ที่ 1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขาดขณะหุ้นส่วน พร้อมด้วยช่าง และอาสาสมัครกระโดดบันจี้จัมป์ขึ้นไปทดสอบ ทำให้ตกลงมาเสียชีวิตคาที่ทันที 2 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (19 เม.ย.) นายสำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรีตำบลฉลอง พร้อมด้วย นายสิชล เหมือนเลื่อน วิศวกรโยธา รักษาการผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลฉลอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบโครงการก่อสร้างบั้นจี้จัมป์ที่เกิดเหตุดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวได้มีการปรับพื้นที่ และก่อสร้างอาคารสำนักงานจำนวน 1 หลัง และโครงเหล็กบั้นจี้จัมป์ 1 ต้น ขนาดความสูงประมาณ 52 เมตร รวมทั้งมีกระเช้าเหล็กสีเหลือมีหลังคาสีเขียวตั้งอยู่ใกล้กับโคนเสาเหล็กบันจี้จัมป์ ใกล้กับโครงเหล็กมีการขุดเป็นบ่อสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ โดยบริเวณทางเข้าจะมีป้ายบอกชื่อ “PHUKET BUNGY JUMP” ระบุเวลาเปิดให้บริการตั้งแต่ 09.00-18.00 น.
ภายหลังการตรวจสอบ นายสำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรีตำบลฉลอง เปิดเผยว่า สำหรับการก่อสร้างโครงการบันจี้จัมป์ดังกล่าว ทางผู้ประกอบการได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาการอย่างถูกต้อง โดยมีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารประกอบด้วย 1.คสล. 1 ชั้น จำนวน 1 หลัง เพื่อใช้เป็นอาคารสำนักงาน มีที่จอดรถ ที่กลับรถ และทางเข้าออกของรถ 2.ก่อสร้างอาคาร คสล. 1 ชั้น จำนวน 1 หลัง เพื่อใช้เป็นอาคารบริการ มีที่จอดรถ กลับรถ และทางเข้าออกของรถ 3.ก่อสร้างอาคาร คสล.เหล็ก จำนวน 1 หลัง เพื่อใช้เป็นบันจี้จัมป์ ความสูง 12 เมตร มีที่จอดรถ ที่กลับรถ และทางเข้าออกของรถ โดยทางเทศบาลตำบลฉลอง ออกใบอนุญาตเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา
ขณะการก่อสร้างบันจี้จัมป์ดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ยังไม่มีการยื่นขออนุญาตเปิดให้บริการแต่อย่างใด ซึ่งหากทางผู้ประกอบการยื่นขออนุญาตเปิดใช้ และให้บริการนักท่องเที่ยว ทางเทศบาลไม่สามารถที่จะอนุญาตให้ผู้ประกอบการใช้อาคารดังกล่าวได้ เนื่องจากขนาดบันจี้จัมป์ที่ก่อสร้างมีความสูงเกินกว่าที่ได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างต่อทางเทศบาล ซึ่งทางเทศบาลอนุญาตให้สร้างได้แค่ 12 เมตร แต่มีการก่อสร้างสูงถึง 52 เมตร โดยในช่วงที่ผู้ประกอบการยื่นขออนุญาตก่อสร้างนั้น ทางเทศบาลได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตผังเมืองสีเขียว ตามประกาศผังเมืองจังหวัดภูเก็ต เทศบาลอนุญาตให้ก่อสร้างในระดับความสูง 12 เมตรเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุในครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะเกิดจากความประมาท และมีการทดสอบในช่วงกลางคืน ส่วนการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และในเบื้องต้นทางเทศบาลจะทำหนังสือถึงผู้ประกอบการระงับการก่อสร้างไว้ก่อน และให้แก้ไขอาคารให้ถูกต้องตามที่ยื่นขออนุญาตไว้
ด้านนายสิชล เหมือนเลื่อน วิศวกรโยธา รักษาการผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลตำบลฉลอง กล่าวว่า ในช่วงของการก่อสร้างบันจี้จัมป์ดังกล่าว ทางเทศบาลได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านให้เข้ามาตรวจสอบการก่อสร้างครั้งหนึ่งแล้ว และทางเทศบาลก็ได้มาตรวจสอบ ในเบื้องต้นได้แจ้งด้วยวาจาให้ทางผู้ประกอบการปรับปรุงแก้ไขตัวอาคารบันจี้จัมป์ที่สูงกว่าที่ได้รับอนุญาตไปแล้ว จนกระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งการจะใช้อาคารดังกล่าวทางผู้ประกอบการจะต้องยื่นขออนุญาตจากทางเทศบาลก่อน ซึ่งถ้ายังไม่มีการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามที่ขออนุญาตไว้ก็ไม่สามารถอนุญาตให้ใช้อาคารดังกล่าวได้
ขณะที่ พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ (สบ 3) สภ.ฉลอง เปิดเผยว่า สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ในเบื้องต้นเกิดจากความประมาท และระบบของบันจี้จัมป์ที่ยังไม่พร้อม ซึ่งขณะนี้ได้เรียกพยานมาสอบปากคำไปแล้วหลายปาก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป