ตรัง - ชาวบ้านชุมชนพังสุรินทร์ จ.ตรัง ร่ำไห้ หลังมือดีลอบยิงปลาบึกยักษ์ตายกลางสระ เผยปลาบึกตัวดังกล่าวมีความคุ้นเคยกับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากอยู่ร่วมกับชาวบ้านเป็นเวลานานกว่า 10 ปี ด้านนายกฯ ทน.ตรังเตรียมเพิ่มมาตรการคุมเข้มความปลอดภัยรอบสระ และพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายหากเจออีก
วันนี้ (16 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. นายชนินวิทย์ สินไชย อายุ 48 ปี ตำแหน่งประธานชุมชนกะพังสุรินทร์ อยู่บ้านเลขที่ 91/1 ถ.เวียนกะพัง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง พร้อมด้วย นายประสาน อ่อนน้อม ประธานสภาเทศบาลนครตรัง ได้นำซากของปลาบึกน้ำหนักกว่า 20 กิโลกรัม เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.จรูญ สังขารา ร้อยเวร สภ.เมืองตรัง ว่า มีการลักลอบยิงปลาบึกที่อาศัยอยู่ในสระน้ำ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบตามลำตัวของบึกตัวดังกล่าว พบว่า เป็นเพศเมีย อายุประมาณ 5-6 ปี น้ำหนัก 20 กิโลกรัม ความยาว 1.60 เมตร มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณแก้มจำนวน 1 แผล คาดว่าตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเศร้าใจให้แก่ชาวบ้านในชุมชนเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับร่ำไห้ เพราะไม่คิดว่าจะมีคนกล้าทำเช่นนี้ เพราะว่าปลาบึกฝูงดังกล่าวได้อยู่คู่กับชาวกะพังมาเป็นเวลาหลายสิบปี และมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
นายชนินวิทย์ สินไชย ประธานชุมชนกะพังสุรินทร์ กล่าวว่า ปลาบึกตัวดังกล่าวถูกพบเมื่อช่วงเช้าลอยเกยขอบสระ เนื่องจากมีน้ำหนักมาก อาจจะทำให้คนร้ายยากต่อการขนย้าย อีกทั้งเป็นช่วงเวลาใกล้สว่างทำให้เป็นที่พบเห็นได้ง่าย แต่ตนมั่นใจว่าอาจจะมีปลาบึกตัวที่มีขนาดเล็กถูกล่าไปก่อนหน้านี้แล้วอย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งที่ทำให้การลักลอบล่าปลาบึกทำได้ง่ายขึ้นก็คงจะมาจากภาวะภัยแล้งทำให้น้ำในสระมีปริมาณลดลงมาก บางแห่งน้ำก็ตื้นเขิน ปลาบึกซึ่งคาดว่าน่าจะมีมากกว่า 100 ตัว ที่อาศัยอยู่ภายในสระ ก็ต้องขึ้นมาหายใจเหนือน้ำ และกินอาหารที่ทางชุมชน หรือนักท่องเที่ยวนำไปโยนให้ จนเป็นการสร้างความคุ้นเคย
ซึ่งปลาบึกก็กลายเป็นเอกลักษณ์ของสระกะพังสุรินทร์อีกอย่างหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความรู้สึกเสียใจให้แก่ชาวกะพังเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนกล้าเข้ายิงปลาบึกถึงในสระ ถึงแม้ว่าทางชุมชนจะพยายามป้องกันโดยการจัดเวรยามดูแลในยามค่ำคืนแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ดังนั้น ตนจึงอยากวิงวอนให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะจะเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่ชุมชน
ในขณะที่ นายอภิชิต วิโนทัย หรือนายกแจ็ค นายกเทศมนตรีนครตรัง ก็ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองตรัง ด้วยตนเอง พร้อมกับกล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะมีมาตรการในการดูแลสระกะพังสุรินทร์เข้มงวดมากขึ้น โดยจะมีการนำป้ายปักห้ามล่าสัตว์น้ำ เพราะทุกสิ่งที่อยู่ภายในสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ ถือว่าเป็นสิ่งที่ชาวตรังต้องรักษาร่วมกัน และหากยังพบการลักลอบเข้ากระทำการดังกล่าวอีกก็จะมีการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อผู้ที่ก่อเหตุทันที
สำหรับสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกที่มีความเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดตรัง ที่ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2508 เป็นเวลายาวนานกว่า 50 ปี บนเนื้อที่กว่า 74 ไร่ และถือว่าเป็นปอดใจกลางเมืองที่ชาวตรังนิยมไปออกกำลังกาย และพาครอบครัวไปพักผ่อนเป็นจำนวนมากทุกวัน