xs
xsm
sm
md
lg

นักท่องเที่ยวทะลักอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีฯ เก็บค่าบริการทะลุ 3 แสนบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - หยุดสงกรานต์นักท่องเที่ยวทะลักอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เกือบหมื่นคน เก็บค่าบริการทะลุ 3 แสนบาท หัวหน้าอุททยานฯ แนะช่วยกันเก็บขยะกลับบ้าน สั่ง จนท.ลาดตระเวนทั้งทางน้ำ-ทางบก ป้องกันนายพรานล่าสัตว์ป่าและพันธุ์ปลาหายาก

วันนี้ (14 เม.ย.) นายฐิติ โสมภีร์ หัวห้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ 14 เม.ย.ซึ่งอยู่ระหว่างช่วงวันหยุดยาวเพื่อฉลองงานเทศกาลวันสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางเข้ามาในพื้นที่ทั้งหมด 8,765 คน สามารถเก็บค่าบริการต่างๆ ได้ 389,800 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาเช่าห้องพักเป็นหมู่คณะ หรือครอบครัว บางกลุ่มมาเช่าเต็นท์ที่ทางอุทยานฯ เตรียมเอาไว้ให้ และบางกลุ่มนำเต็นท์มากางพักผ่อนเอง

โดยเฉพาะบริเวณลานจุดชมวิวที่มองเห็นทะเลาสาบ ใกล้กับทางลงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวที่มาส่วนใหญ่จะนำอาหารมาปรุงกินกันเอง ทั้งมื้อเช้า กลางวัน และมื้อเย็น

ดังนั้น ปัญหาที่ตามมาคือ เรื่องของขยะมูลฝอย เช่น กล่องโฟม ถุงพลาสติก รวมทั้งเศษอาหาร มีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ถังขยะที่เจ้าหน้าที่เตรียมเอาไว้ให้ไม่เพียงพอ เมื่อล้นถังขยะทำให้กระแสลมพัดตกเกลื่อนพื้นที่ ซึ่งยากต่อการทำความสะอาด ดังนั้น ทางอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จึงขอร้องให้นักท่องเที่ยวเก็บขยะที่ตนมีนำไปทิ้งที่อื่นด้วย

สำหรับอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ มีพื้นที่ประมาณ 1,532 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 957,500 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และมีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่านานาชนิด ส่วนทะเลสาบก็กว้างใหญ่ไพศาลมีสัตว์น้ำที่หายาก

โดยเฉพาะพันธุ์ปลาบึก สิ่งที่ทางอุทยานฯ เป็นห่วงก็คือ การที่นักล่าสัตว์ป่าแฝงตัวเข้ามาเป็นนักท่องเที่ยว ที่ไม่ได้เข้ามากางเต็นท์ หรือเช้าห้องเพื่อพักผ่อนในเขตพื้นที่อุทยานฯ แต่อาศัยบ้านญาติ หรือเพื่อนฝูงสำหรับพักผ่อน เมื่อตกช่วงเวลากลางคืนก็มักจะออกไล่ล่ายิงสัตว์ป่าเพื่อนำไปเป็นอาหาร โดยมีคนในพื้นที่เป็นผู้นำทาง ทำให้ยากต่อการจับกุม เพราะคนในพื้นที่รู้เส้นทางกันเป็นอย่างดี

เพื่อเป็นการป้องกันกลุ่มนายพรานเหล่านี้ ตนจึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนกันอย่างเข้มข้นทั้งเวลากลางวัน และกลางคืน รวมทั้งพื้นที่รับผิดชอบทางน้ำด้วย โดยจะสับเปลี่ยนกำลังออกลาดตระเวนตลอดเวลา และที่ผ่านมา ยังไม่พบกลุ่มนายพรานเหล่านี้แต่อย่างใด

แต่อย่างไรก็ตาม ลำพังกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่มีอยู่อาจะไม่เพียงพอต่อการป้องกัน ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือ หากนักท่องเที่ยวพบเห็นกลุ่มบุคคลต้องสงสัยที่พกพาอาวุธปืน หรืออุปกรณ์การล่าสัตว์เข้ามาในพื้นที่ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันที ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของเราอีกทางหนึ่งด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น