ปัตตานี - สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในประเทศมาเลเซีย เฮ หลังเปิดสหกรณ์บริการสมาคมฯ หวังให้หน่วยงานภาครัฐเป็นพี่เลี้ยงด้านระบบการจัดการ เน้นการช่วยเหลือกันของคนไทยที่อาศัยในประเทศมาเลเซีย
วันนี้ (10 เม.ย.) ที่ทำการสมาคมผู้ประกอบการอาหารไทยในประเทศมาเลเซีย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา นายกฤต ไกรจิตติ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ตลอดจน นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายอุดร น้อยทับทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ว่าที่ ร.ต.สมโภชน์ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี นายอับดุลมานะ เจ๊ะและ กรรมการอิสลามฝ่ายกิจการฮาลาลจังหวัดปัตตานี
หน่วยงานราชการจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ประกอบการ หอการค้า อุตสหากรรมจังหวัด นายธีรวิทย์ เฑียรโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการผลิตและธุรกิจฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. และคณะเดินทางร่วมพิธีเปิดสหกรณ์บริการสมาคมผู้ประกอบการอาหารไทยในประเทศมาเลเซีย โดยมีคณะผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในมาเลเซียร่วมให้การต้อนรับ
นายเจฟรี มะลาแซ นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจอาหารไทยในประเทศมาเลเซีย กล่าวด้วยความตื้นตันว่า ตนเองรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทางเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ท่าน วันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา คณะจากประเทศไทย ตลอดจนคณะจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ให้เกียตริเดินทางมาในงานพิธีเปิดสหกรณ์บริการสมาคมผู้ประกอบการอาหารไทยในประเทศมาเลเซียในวันนี้
ปัจจุบันมีร้านต้มยำไทยในประเทศมาเลเซียประมาณ 5,000 ร้าน มีแรงงานไทยที่ทำงานในร้านต้มยำกว่า 120,000 คน สร้างรายได้นำเงินเข้าประเทศไทยปีละไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้พยายามทำให้พวกเรารวมตัวกันเป็นกุล่มก้อน สร้างความเข้มแข็ง และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา ได้จัดตั้งสมาคมผู้ประกอบธุรกิจอาหารไทยในประเทศมาเลเซียขึ้น และได้เช่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งสมาคม
เป็นที่ประชุมเพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และในช่วงสุดสัปดาห์ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ยังเป็นที่เรียนหนังสือของลูกหลานชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ เรายังใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมร่วมกัน ทั้งอบรม ประชุม สัมมนา การจัด BUSINESS MATCHING และกิจกรรมอื่นๆ สำหรับการจัดตั้งสหกรณ์ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารไทยในประเทศมาเลเซียครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากพวกเราหมู่คณะมีความสนใจที่จะรวมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันในด้านต่างๆ
เช่น ด้านเงินทุน ด้านวัตถุดิบ ด้านแรงงาน ด้านองค์ความรู้ เป็นต้น โดยได้รับความอนุเคราะห์จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการให้ความรู้ความเข้าใจถึงการดำเนินงานของสหกรณ์ ปัจจุบัน สมาคมฯ ได้ดำเนินการจัดตั้งสหกรณ์แล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 มีสมาชิก 77 คน และมีการระดมทุน 202,000 บาท ซึ่งเป้าหมายของสหกรณ์ฯ ในอนาคตอันใกล้ คือ การนำวัตถุดิบราคาถูกมาจำหน่ายให้แก่สมาชิก โดยเฉพาะข้าวสาร
ซึ่งได้รับการอนุเคราะห์จากกระทรวงพาณิชย์ นอกจากนั้น ยังมีแนวคิดช่วยเหลือพี่น้องผู้ประกอบการจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการนำวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ฮาลาลมาวางจำหน่าย ณ ร้านต้มยำ ผมมีความมั่นใจว่าสหกรณ์ของเราจะเติบโตในระยะเวลาอันใกล้ จะมีการสมัครเป็นสมาชิกและระดมหุ้นเพิ่มขึ้นอีกมากมาย โดยพวกเราจะขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนส่งเสริมกากรพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และประเทศไทย พร้อมทั้งเป็นผู้นำการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา กล่าวด้วยว่า สหกรณ์คือที่มาของการช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ที่จะช่วยพวกเราในมาเลเซีย เช่น การหาวัตถุดิบในราคาถูก การหาเงินทุนให้สมาชิก การหาแรงงานที่มีคุณภาพ อยากให้ทุกคนช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เราเริ่มจากเงินเพียงน้อยนิด แต่นำมาซึ่งความเจริญงอกงามขอให้ทุกท่านขยันหมั่นเพียร มีความเป็นหนึ่งเดียวในการอยู่น่วมกัน การทำสหกรณ์นี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของพี่น้องชาวไทยที่อยู่ในมาเลเซีย เป็นศูนย์รวมในการคิด การอยู่ร่วมกันตามหลักศาสนาอิสลาม การดำเนินงานนี้เกิดขึ้น และรัฐจะมาสอนทั้งในเรื่องการทำบัญชี เรื่องระบบการดำเนินงาน แต่ไม่ได้มาควบคุม แต่พวกเราต้องช่วยกันที่จะดูแลซึ่งกันและกันด้วย และสหกรณ์จะเป็นฐานที่สำคัญในการส่งเสริมให้ทุกคนมีรากฐานที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ขอให้ท่านใช้สหกรณ์ให้เป็นประโยชน์ ให้รักสหกรณ์เหมือนลูก ให้ดูแลสหกรณ์ให้ดีแล้วสหกรณ์ก็จะให้คุณเพื่อตอบแทนเรา และเป็นที่รับรู้กันว่าเราจะเปิดการค้าเสรีในปี พ.ศ. 2558 มีการแลกเปลี่ยนสินค้า และบริการอย่างเสรี มีการเตรียมความพร้อมสร้างความเข้าใจมากมาย แต่สำหรับกลุ่มต้มยำกุ้งไทยในประเทศมาเลเซีย แทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะท่านได้มีความพร้อม และได้ก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนมานานแล้ว
นอกจากนี้ คณะจากประเทศไทยได้เยี่ยมชมโรงเรียนสอนภาษาไทยแก่เด็กเล็กภายในที่ทำการสมาคม ซึ่งเปิดการเรียนการสอนด้านภาษาไทย โดยใช้นักศึกษาไทยที่ศึกษาประเทศมาเลเซีย เป็นครูผู้สอนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 14.00-16.00 น. มีเด็กเรียนประมาณ 40 คน โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ในการเช่าสถานที่ และค่าจ้างอัตราคน
วันนี้ (10 เม.ย.) ที่ทำการสมาคมผู้ประกอบการอาหารไทยในประเทศมาเลเซีย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา นายกฤต ไกรจิตติ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ตลอดจน นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายอุดร น้อยทับทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ว่าที่ ร.ต.สมโภชน์ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี นายอับดุลมานะ เจ๊ะและ กรรมการอิสลามฝ่ายกิจการฮาลาลจังหวัดปัตตานี
หน่วยงานราชการจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ประกอบการ หอการค้า อุตสหากรรมจังหวัด นายธีรวิทย์ เฑียรโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการผลิตและธุรกิจฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. และคณะเดินทางร่วมพิธีเปิดสหกรณ์บริการสมาคมผู้ประกอบการอาหารไทยในประเทศมาเลเซีย โดยมีคณะผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในมาเลเซียร่วมให้การต้อนรับ
นายเจฟรี มะลาแซ นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจอาหารไทยในประเทศมาเลเซีย กล่าวด้วยความตื้นตันว่า ตนเองรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทางเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ท่าน วันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา คณะจากประเทศไทย ตลอดจนคณะจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ให้เกียตริเดินทางมาในงานพิธีเปิดสหกรณ์บริการสมาคมผู้ประกอบการอาหารไทยในประเทศมาเลเซียในวันนี้
ปัจจุบันมีร้านต้มยำไทยในประเทศมาเลเซียประมาณ 5,000 ร้าน มีแรงงานไทยที่ทำงานในร้านต้มยำกว่า 120,000 คน สร้างรายได้นำเงินเข้าประเทศไทยปีละไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้พยายามทำให้พวกเรารวมตัวกันเป็นกุล่มก้อน สร้างความเข้มแข็ง และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา ได้จัดตั้งสมาคมผู้ประกอบธุรกิจอาหารไทยในประเทศมาเลเซียขึ้น และได้เช่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งสมาคม
เป็นที่ประชุมเพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และในช่วงสุดสัปดาห์ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ยังเป็นที่เรียนหนังสือของลูกหลานชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ เรายังใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมร่วมกัน ทั้งอบรม ประชุม สัมมนา การจัด BUSINESS MATCHING และกิจกรรมอื่นๆ สำหรับการจัดตั้งสหกรณ์ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารไทยในประเทศมาเลเซียครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากพวกเราหมู่คณะมีความสนใจที่จะรวมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันในด้านต่างๆ
เช่น ด้านเงินทุน ด้านวัตถุดิบ ด้านแรงงาน ด้านองค์ความรู้ เป็นต้น โดยได้รับความอนุเคราะห์จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการให้ความรู้ความเข้าใจถึงการดำเนินงานของสหกรณ์ ปัจจุบัน สมาคมฯ ได้ดำเนินการจัดตั้งสหกรณ์แล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 มีสมาชิก 77 คน และมีการระดมทุน 202,000 บาท ซึ่งเป้าหมายของสหกรณ์ฯ ในอนาคตอันใกล้ คือ การนำวัตถุดิบราคาถูกมาจำหน่ายให้แก่สมาชิก โดยเฉพาะข้าวสาร
ซึ่งได้รับการอนุเคราะห์จากกระทรวงพาณิชย์ นอกจากนั้น ยังมีแนวคิดช่วยเหลือพี่น้องผู้ประกอบการจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการนำวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ฮาลาลมาวางจำหน่าย ณ ร้านต้มยำ ผมมีความมั่นใจว่าสหกรณ์ของเราจะเติบโตในระยะเวลาอันใกล้ จะมีการสมัครเป็นสมาชิกและระดมหุ้นเพิ่มขึ้นอีกมากมาย โดยพวกเราจะขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนส่งเสริมกากรพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และประเทศไทย พร้อมทั้งเป็นผู้นำการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา กล่าวด้วยว่า สหกรณ์คือที่มาของการช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ที่จะช่วยพวกเราในมาเลเซีย เช่น การหาวัตถุดิบในราคาถูก การหาเงินทุนให้สมาชิก การหาแรงงานที่มีคุณภาพ อยากให้ทุกคนช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เราเริ่มจากเงินเพียงน้อยนิด แต่นำมาซึ่งความเจริญงอกงามขอให้ทุกท่านขยันหมั่นเพียร มีความเป็นหนึ่งเดียวในการอยู่น่วมกัน การทำสหกรณ์นี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของพี่น้องชาวไทยที่อยู่ในมาเลเซีย เป็นศูนย์รวมในการคิด การอยู่ร่วมกันตามหลักศาสนาอิสลาม การดำเนินงานนี้เกิดขึ้น และรัฐจะมาสอนทั้งในเรื่องการทำบัญชี เรื่องระบบการดำเนินงาน แต่ไม่ได้มาควบคุม แต่พวกเราต้องช่วยกันที่จะดูแลซึ่งกันและกันด้วย และสหกรณ์จะเป็นฐานที่สำคัญในการส่งเสริมให้ทุกคนมีรากฐานที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ขอให้ท่านใช้สหกรณ์ให้เป็นประโยชน์ ให้รักสหกรณ์เหมือนลูก ให้ดูแลสหกรณ์ให้ดีแล้วสหกรณ์ก็จะให้คุณเพื่อตอบแทนเรา และเป็นที่รับรู้กันว่าเราจะเปิดการค้าเสรีในปี พ.ศ. 2558 มีการแลกเปลี่ยนสินค้า และบริการอย่างเสรี มีการเตรียมความพร้อมสร้างความเข้าใจมากมาย แต่สำหรับกลุ่มต้มยำกุ้งไทยในประเทศมาเลเซีย แทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะท่านได้มีความพร้อม และได้ก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนมานานแล้ว
นอกจากนี้ คณะจากประเทศไทยได้เยี่ยมชมโรงเรียนสอนภาษาไทยแก่เด็กเล็กภายในที่ทำการสมาคม ซึ่งเปิดการเรียนการสอนด้านภาษาไทย โดยใช้นักศึกษาไทยที่ศึกษาประเทศมาเลเซีย เป็นครูผู้สอนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 14.00-16.00 น. มีเด็กเรียนประมาณ 40 คน โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ในการเช่าสถานที่ และค่าจ้างอัตราคน
