ตรัง - พิษภัยแล้งเล่นงานตรังยับ ทำอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมต้องปิดให้บริการในบางพื้นที่ เหตุจากน้ำกินน้ำใช้มีปริมาณจำกัด เนื่องจากแหล่งน้ำจืดบนภูเขาที่ใช้ผลิตน้ำประปามีปริมาณน้ำลดลงเรื่อยๆ
วันนี้ (10 เม.ย.) นายมาโนช วงษ์สุรีรัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง กล่าวว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในปีนี้ ได้ส่งผลกระทบมาถึงอุทยานฯ จนต้องปิดการให้บริการในบางส่วน เฉพาะบริเวณเขาแบนะ และหาดเจ้าไหม หน้าที่ทำการอุทยานฯ ขณะที่ในส่วนอื่นๆ ยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตามปกติ เนื่องจากน้ำจืดสำหรับผลิตเป็นน้ำกินน้ำใช้มีปริมาณจำกัด จึงรองรับนักท่องเที่ยวได้แค่วันละ 400-500 คนเท่านั้น ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงไฮซีซัน หรือเทศกาลท่องเที่ยว แต่ก็มีความจำเป็นจะต้องดำเนินการด้วยวิธีนี้เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีฝนตกลงมาในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม
สำหรับแหล่งน้ำธรรมชาติในการผลิตประปาก็คือ ภูเขาควนน้ำซับ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.5 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา หรืออยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยจะมีการต่อท่อให้น้ำไหลลงจากภูเขาเพื่อนำมาผลิตเป็นน้ำจืด และกักเก็บไว้บนถังสูง ขนาดความจุ 4-5 พันลิตร ก่อนจะปล่อยออกไปยังที่ทำการ บ้านพักเจ้าหน้าที่ และบ้านพักนักท่องเที่ยว ซึ่งมีประมาณ 50 หลัง รวมทั้งห้องน้ำ ห้องส้วม ซึ่งมีกระจายอยู่ในหลายจุดทั่วเขตอุทยานฯ แต่จากสถานการณ์ภัยแล้งทำให้เกิดผลกระทบต่อแหล่งน้ำจืดบนภูเขา เนื่องจากมีปริมาณการไหลที่ลดน้อยลงมาก จนอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม อยู่ในจุดที่ไม่สามารถหาแหล่งน้ำจืดได้เลย เช่น บ่อน้ำ หรือบ่อบาดาล เพราะตั้งอยู่ริมทะเลอันดามัน ในขณะที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในแต่ละปีก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และต้องใช้น้ำเป็นปริมาณมาก เฉลี่ยคนละ 100 ลิตร/วัน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจ และรวบรวมข้อมูลทางวิชาการว่าในช่วงหน้าแล้งของทุกปีมีการไหลของน้ำออกมาจากภูเขาควนน้ำซับเท่าไหร่ และหากทำการขุดสระขนาดใหญ่เพื่อรองรับน้ำมาเก็บกักไว้จะคุ้มค่าหรือไม่ รวมทั้งอาจจะมีการไปหาแหล่งน้ำจืดอื่นๆ เพิ่มไว้สำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวในอนาคต