ผจก.ประปา หวั่นแหล่งผลิตน้ำประปาแห้ง หลังแม่น้ำตรังเริ่มเจอวิกฤต

ตรัง - ผจก.ประปา จ.ตรัง วอนประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำ หลังพบแม่น้ำตรังเริ่มวิกฤตจากภัยแล้ง เนื่องจากป่าต้นน้ำถูกทำลายไปมาก หวั่นในอนาคตอาจย่ำแย่จนถึงขั้นต้องนำน้ำทะเลมาผลิตประปา

วันนี้ (24 มี.ค.) นายธีรพงษ์ หนูเกื้อ ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขาตรัง ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจปริมาณน้ำในแม่น้ำตรัง บริเวณสถานีสูบน้ำตำบลหนองตรุด อำเภอเมืองตรัง ซึ่งมีกำลังผลิตอยู่ที่ 500 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง เนื่องจากแม่น้ำตรังถือเป็นแม่น้ำสายหลัก และมีลำน้ำสาขาย่อยหลายสายไหลผ่านพื้นที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอรัษฎา อำเภอห้วยยอด อำเภอเมืองตรัง

ก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลอันดามัน ที่อำเภอกันตัง ด้วยความยาวถึง 175 กิโลเมตร ซึ่งการประปาส่วนภูมิภาค ต้องสูบน้ำจากแม่น้ำตรัง มาใช้ผลิตน้ำประปาใน 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอนาโยง อำเภอสิเกา และอำเภอย่านตาขาว โดยมีพื้นที่ให้บริการ 1,945 ตารางกิโลเมตร มีความยาวท่อให้บริการ 383,075 เมตร และมีผู้ใช้น้ำ 15,216 ราย

สืบเนื่องจากปัญหาภัยแล้งของจังหวัดตรังในปีนี้ ซึ่งถือว่ารุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา และกินระยะเวลายาวนานติดต่อกันหลายเดือนนั้น การประปาส่วนภูมิภาค ก็มีความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จึงได้มีการสำรวจปริมาณน้ำของแม่น้ำตรัง และคาดว่าจะยังเพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำของประชาชนไปอีกไม่เกิน 2 เดือน

แต่ทางการประปาส่วนภูมิภาค ก็ได้มีการวางแผนสำรองเอาไว้เพื่อป้องกันปัญหาน้ำไม่เพียงพอ และหากมีปัญหาน้ำทะเลหนุนเข้ามาซ้ำเติม ก็ยิ่งจะทำให้เป็นอุปสรรคในการผลิตน้ำประปามากขึ้น โดยในขณะนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 19,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ในขณะที่ประชาชนใช้น้ำโดยรวมอยู่ที่ 15,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งนี้จะมีการเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้นอีกเกือบเท่าตัว

อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขาตรัง อยากรณรงค์ให้ประชาชนใช้น้ำกันอย่างประหยัด เพราะในปัจจุบัน ทรัพยากรน้ำของจังหวัดตรังเริ่มลดน้อยลง เนื่องจากป่าต้นน้ำถูกทำลายไปมาก ซึ่งในอนาคตหากยังไม่มีการเข้าไปดูแล หรือรักษาอย่างจริงจังอาจจะต้องถึงขั้นนำน้ำจากทะเลอันดามัน มาผลิตเป็นน้ำกินน้ำใช้แทน หรืออาจจะต้องซื้อน้ำในราคาที่แพงมากขึ้นก็เป็นได้