เปิดใจผู้ประกอบการ “ศรีสมัยค้าส่ง” หลังโจรใต้วางบึ้มพังโกดังสินค้ายับ(ชมคลิป)

ยะลา - ผู้ประกอบการ “ศรีสมัยค้าส่ง” กล่าวเปิดใจหลังถูกโจรใต้วางคาร์บอมบ์อัดโกดังพังยับ โอดโดนผลกระทบไฟใต้มากกว่า 40 ครั้ง วอนรัฐเร่งเยียวยาความเสียหาย ยอมรับสภาพจิตใจย่ำแย่หนัก หมดกำลังใจธุรกิจทำต่อ ยืนยันไม่ปล่อยลอยแพคนงาน

วันนี้ (8 เม.ย.) หลังเกิดเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดครั้งล่าสุดที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 6 และรุ่งเช้าของวันที่ 7 เมษายน 57 ที่ผ่านมา รวมแล้ว จำนวน 8 จุด โดยวันที่ 6 เมษายน 57 เวลา 15.55 น.ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม ซุกซ่อนมาในรถยนต์กระบะ และมาจอดข้างร้านราชาเฟอร์นิเจอร์ ถนนสิโรรส เขตเทศบาลนครยะลา และคนร้ายได้จุดชนวนระเบิด จนทำให้อาคารบ้านเรือนประชาชนเสียหายนับสิบหลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บเกือบ 30 ราย ต่อมา ได้เกิดเหตุระเบิดที่ร้านฟ้าใสประดับเรือน ถนนสิโรรส ตัดถนนตลาดเมืองใหม่ โดยคนร้ายขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างแบบรถขายไอศกรีมมาจอดใกล้ร้าน ก่อนจะเกิดเหตุระเบิด จนทำให้ร้านได้รับความเสียหาย จากนั้นต่อมา ได้เกิดเหตุระเบิดในตู้โทรศัพท์หน้าสำนักงานทีโอที ถนนสาย 15 ต.สะเตง อ.เมือง ยะลา ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และอีก 1 จุด คือ ที่ตู้เอทีเอ็ม หน้าสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ถนนสาย 15 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

ระยะเวลาเพียงชั่วข้ามคืน รุ่งเช้าของวันที่ 7 เมษายน 57 เวลาประมาณ 06.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดภายในร้าน 7-11 ถนนสิโรรส ย่านตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต จากนั้นไม่นานได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีกครั้งภายในร้าน 7-11 บ้านจารู ถนนสิโรรส ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ในเวลาเพียงไม่นานได้เกิดไฟไหม้ภายในโกดังศรีสมัยค้าส่ง ซึ่งอยู่ใกล้กับร้าน 7-11 จารูพัฒนา และได้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีวัสดุสินค้าภายในโกดังที่เป็นเชื้อเพลง และติดไฟได้ง่าย เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังรถดับเพลิง และกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 คน เข้าช่วยเหลือเพื่อระงับเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้ภายในโกดัง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุระเบิดภายในศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อ.เมืองยะลา ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมแล้วเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น 2 วัน จำนวน 8 จุด โกดังศรีสมัยค้าส่ง ได้รับความเสียหายหนักสุดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้

นางวราพรณ์ ศิริไชย เจ้าของ และผู้ประกอบการโกดังศรีสมัยค้าส่ง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้นกำลังใจทรุดลงเป็นอย่างมาก รู้สึกท้อแท้ ไม่มีแรงที่จะทำต่อ เพราะยังไม่สามารถจะรู้ได้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ห่วงว่าภาครัฐจะช่วยเหลือได้อย่างไร ก็ยังไม่สามารถรู้ได้ รวมถึงซัปพลายเออร์ และประกันจะมีผลอย่างไร จะช่วยเหลือได้มมากน้อยเพียงใด ก็อยากจะขอให้ทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาล เอกชน เข้ามาช่วยเหลือ เพื่อเป็นแรงผลักดันให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ พนักงานทั้งหมดก็จะไม่ตกงาน แต่หากกิจการหยุดลง พนักงานทั้งหมดก็ต้องถูกลอยแพ ซึ่งมีพนักงานในเครือทั้ง 3 จังหวัดกว่า 1 พันคน เนื่องจากโกดังศรีสมัยค้าส่ง เป็นสถานที่จำหน่ายส่งสินค้าทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมไปถึง 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ถือเป็นโกดังสินค้ารายใหญ่ที่สุดในพื้นที่

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกิจการของศรีสมัยค้าส่ง เกิดขึ้นมาหลายสิบครั้ง จนนับไม่ถ้วน แต่ละครั้งที่โดนผลกระทบก็หนักเอาการ เหตุการณ์ไหนที่แก้ไขได้เราเองก็พยายามแก้ไขด้วยตัวเองมาโดยตลอด ก็อยากให้ภาครัฐ หรือรัฐบาลเร่งเข้ามาเยียวยาให้กำลังใจ รวมไปถึงซัปพลายเออร์ก็ต้องเข้าใจ และเป็นแรงผลักดันให้เราสามารถเดินหน้าทำกิจการต่อไปได้” นางวราพรณ์ กล่าว

นางวราพรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากจะบอกผู้ที่ก่อเหตุว่า ให้มีความเห็นใจต่อผู้ที่ทำมาหากินบ้าง อย่างน้อยๆ เราก็เป็นคนในพื้นที่ อยู่ในพื้นที่มากว่า 60 ปี ให้คนรุ่นหลังได้อยู่ได้ และเชื่อมธุรกิจต่อไปได้ ขอให้พื้นที่เกิดความสงบสุข และต่างคนต่างก็อยู่ร่วมกันได้

ด้านนายอุปถัมภ์ ศิริไชย ผู้ดำเนินกิจการของโกดังศรีสมัยค้าส่ง เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุคนงานได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบ จึงได้รุดมาดูที่เกิดเหตุด้วยตนเอง ซึ่งก็มีกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากเข้ามาระงับเหตุไว้แล้ว ทั้งนี้ กิจการของศรีสมัยค้าส่ง ถูกผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน นับแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทอย่างแน่นอน คนงานอีกกว่า 200 ชีวิตที่นี่ก็ต้องได้รับผลกระทบ แต่ก็ยืนยันที่จะไม่ทิ้งคนงาน ทางศรีสมัย จะดำเนินการไปตามขั้นต้น คือช่วยเหลือกัน และกระจายคนงานไปยังส่วนต่างๆ ในเครือของศรีสมัย เพื่อให้คนงานได้มีงานทำ ก็ยังหวังที่จะสู้ และดำเนินธุรกิจต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น เมื่อวานนี้ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มอบเงินเยียวยาช่วยเหลือในเบื้องต้น ให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ และมีค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปอย่างเร่งด่วน โดยมอบเงินจากศูนย์ปฏิบัติการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดยะลา ให้แก่โกดังศรีสมัย จำนวน 2 ล้านบาท ขณะที่ทางจังหวัดยะลา ได้ดำเนินการส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และประเมินมูลค่าความเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์สิน สินค้า และตัวอาคาร ซึ่งต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป