ระนอง - ตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ สนธิกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ ตชด.415 บุกเข้าตรวจยึดพื้นที่ที่มีการบุกรุกจำนวน 2 แปลง ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ แปลงแรกเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ยึดรถแบ็กโฮ และรถสิบล้อ ส่วนผู้กระทำผิดหลบหนีไปได้
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (3 เม.ย.) พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกฤต รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมืองระนอง ตำรวจ สภ.เมืองระนอง ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 หน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่ รน.8 (บ่อน้ำร้อน) เข้าตรวจสอบที่ดินที่มีการบุกรุกจำนวน 2 แปลง หลังจากได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่า มีนายทุนได้นำรถแบ็กโฮ และรถบรรทุกสิบล้อเข้าไปปรับสภาพพื้นที่ป่ามีการตัดต้นไม้ขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก
โดยจุดแรกเข้าไปที่บริเวณซอยเขาสังข์ ม.3 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง พบรถแบ็กโฮ จำนวน 1 คัน รถบรรทุกสิบล้อ จำนวน 1 คัน ส่วนผู้กระทำผิดได้หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง โดยพื้นที่ที่ถูกบุกรุกเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตรวจสอบเบื้องต้นพบถูกบุกรุกไปแล้ว จำนวนกว่า 22 ไร่ โดยมีการปรับหน้าดินทำถนนขึ้นไปบนภูเขา มีการลักลอบตัดต้นไม้ขนาดใหญ่มีการแปรรูปเป็นจำนวนมาก จึงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองระนอง เพื่อทำการสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งเบื้องต้นก็พอทราบแล้วว่าเป็นของนายทุนคนไหน
จากนั้นได้เดินทางไปยังจุดที่ 2 ในพื้นที่ ม.2 ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งอยู่ห่างจากปากทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว เพียง 20 เมตรเศษ โดยผู้กระทำผิดได้นำดินมาเทกองทิ้งไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ขับรถเข้าไปยังพื้นที่ที่บุกรุกได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องเดินเท้าเข้าไประยะทางประมาณกว่า 1 กิโลเมตร เมื่อไปถึงพบรถแบ๊กโฮ จำนวน 2 คัน และรถแทรกเตอร์ จำนวน 1 คัน พร้อมผู้กระทำผิดขณะกำลังนั่งกินข้าว จำนวน 4 ราย คือ นายเสถียร รักราษฎร์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192 ม.2 ต.หงาว อ.เมืองระนอง ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดิน นายสุด แซ่ฟู่ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.3 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง นายอนันต์ โพธิ์ศรี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/12 ม.1 ต.หาดส้มแป้น อ.เมืองระนอง และนายจีระศักดิ์ แย้มลังกา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/31 ม.2 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง
สอบสวนเบื้องต้น นายเสถียร ได้นำหนังสือครอบครองที่ดินดังกล่าวโดยอ้างว่า อำเภอเมืองระนอง ได้ออกให้เมื่อ พ.ศ.2535 ซึ่งเนื้อที่ 44 ไร่ ด้านซ้ายติดกับเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว มีแนวเขตเสาเห็นชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองระนอง และ พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บอกว่า หนังสือนี้ไม่สามารถนำมาใช้ได้ เนื่องจากไม่ได้มีการทำประโยชน์ปลูกพืชผลอาสินบนพื้นที่ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2485 มาตร 5 และนำตัวผู้กระทำผิดพร้อมของกลางส่งร้อยเวร สภ.ราชกรูด ทำการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป