กระบี่ - เจ้าหน้าที่สำนักโบราณคดีที่ 15 ภูเก็ต เข้าตรวจยึดลูกปัดโบราณ และอุปกรณ์การขุดจำนวนมากภายในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน ม.2 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลังรับแจ้งมีการลักลอบขุด
วันนี้ (2 เม.ย.) นายภานุวัฒน์ เอื้อสามาลย์ นักโบราณคดีชำนาญการสำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต ร.ต.อ.ไพทูรย์ คงสุข รองสารวัตรป้องการและปราบปราม สภ.คลองท่อม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ เข้าตรวจสอบที่บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่หมู่ที่ 2 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ห่างจากพิพิธภัณฑ์ลูกปัดคลองท่อม ประมาณ 1 กิโลเมตร หลังรับแจ้งว่ามีการลักลอบขุดลูกปัดโบราณกันเป็นจำนวนมากในบริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ประกาศแหล่งโบราณสถาน
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบกลุ่มชาวบ้านกำลังลักลอบขุดลูกปัด และกำลังร่อนดินกระจายอยู่เต็มพื้นที่ แต่พอเห็นเจ้าหน้าที่ก็วิ่งหนีกันไปคนละทิศละทางไม่เหลือแม้แต่คนเดียว โดยทิ้งอุปกรณ์การขุด และทรัพย์สินต่างๆ ไว้จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ประกอบด้วย จอบ จำนวน 6 ด้าม เสียม จำนวน 2 ด้าม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ถุงตาข่ายร่อนดินรวมทั้งดินกรวดทรายรวมจำนวน 8 ถุง เศษภาชะดินเผาจำนวน 2 ชิ้น และลูกปัดแก้วหลากสีจำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบบริเวณพื้นที่ดังกล่าว พบว่า มีการขุดหลุมไว้จำนวนกว่า 100 หลุม บริเวณในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันอายุประมาณ 5-6 ปี เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ โดยแต่ละหลุมมีทั้งทรงกลม และสี่เหลี่ยม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ลึกประมาณ 2-3 เมตร บริเวณปากหลุมเจ้าหน้าที่พบกองเศษหินกรวดจำนวนมาก คาดว่าเป็นเศษหินดินทรายที่ขุดออกมาจากในหลุม และพบเศษดินกรวดดินทรายจาการร่อนดินเพื่อเอาของมีค่า คาดว่ามีการลักลอบขุดกันมานานแล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำของกลางทั้งหมดส่งเจ้าพนักงานสอบสวน โดยแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.โบราณสถานและโบราณวัตถุฯ ฐานลักลอบขุดสิ่งใดๆ ภายในพื้นที่โบราณสถาน
นายภานุวัฒน์ กล่าวว่า ในการตรวจสอบพื้นที่ครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนไปยังกรมศิลปากร ว่า มีการลักลอบขุดค้นวัตถุโบราณในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่โบราณสถาน แม้ว่าเป็นที่ดินของเอกชนก็ตาม แต่วัตถุโบราณนั้นเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ ซึ่งหลังจากนี้จะประสานไปยังเจ้าของที่ดินเพื่อทำการสอบสวน และให้ทำการปรับพื้นที่ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม และจาการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า มีการให้เช่าที่ดินเพื่อขุดลูกปัดโบราณ วันละ 200 บาทต่อคน ซึ่งจะได้ให้เจ้าพนักงานสอบดำเนินการตามกฎหมายต่อไป