พัทลุง - กรมศิลปากรที่ 14 ระงับการขุดหาทองในสวนปาล์มในพื้นที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ของนายวิ ทับแสง แล้ว หลังใช้เวลาขุดกว่า 20 วัน โดยไม่พบทองคำ หรือวัตถุโบราณแต่อย่างใด พร้อมส่งที่ดินกลับคืนสู่เจ้าของ ด้านนายวิเผยเตรียมทำการปรับสภาพที่ดินใหม่อีกครั้งหนึ่ง เบื้องต้นทราบว่า มีชาวบ้านนำทองที่ขุดพบไปขายแก่นักสะสมของเก่าในราคาสูงกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว
วันนี้ (25 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรที่ 14 จ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ทหารช่างที่ 401 ค่ายอภัยบริรักษ์ จังหวัดพัทลุง ได้ยุติการขุดหาทองคำและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่บริเวณสวนปาล์ม นายวิ ทับแสง ท้องที่ หมู่ที่ 7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง หลังจากก่อนหน้าที่ทางชาวบ้าน และเจ้าของสวนปาล์ม ได้ขุดพบทองคำโบราณเป็นจำนวนมากไปก่อนหน้านี้ และทางจังหวัดได้ประกาศเป็นแหล่งโบราณห้ามชาวบ้านเข้าดำเนินการขุด มิฉะนั้นจะผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.วัตถุโบราณปี 2504 และให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เข้าดำเนินการขุดเนื่องจากทองคำที่พบเป็นสมบัติของชาติ ไม่มีใครแสดงความเป็นเจ้าของ
ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรที่ 14 จ.นครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่ดำเนินการขุดพร้อมกับเจ้าหน้าที่กองพันทหารช่างที่ 401 โดยดำเนินการขุดด้วยมือ และรถแบ็กโฮ ขุดมาในหลุมกว้าง 10x10 ตารางเมตร ลึก 3 เมตร และจากการดำเนินการขุดมาได้ 20 วัน เจ้าหน้าที่ก็ไม่พบชิ้นส่วนทองคำ และวัตถุโบราณแต่อย่างใด จึงได้ทำการยุติการขุดพร้อมปิดหลุมเพื่อคืนพื้นที่ให้แก่เจ้าของต่อไป
ด้านนายอาณัติ บำรุงวงค์ ผอ.สำนักงานศิลปากรที่ 14 จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลังจากที่ดำเนินการขุดตามชั้นดินต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ไม่พบชิ้นส่วนทองคำที่ฝังในชั้นดินแต่อย่างใด จึงเป็นไปได้ว่า ทองคำโบราณที่ชาวบ้านพบนั้นน่าจะเป็นการนำมาฝังไว้ แต่จะฝังไว้ในยุคสมัยใดยังไม่สามารถหาที่มาที่ไปได้ ทางเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรจะต้องวิเคราะห์ตามชั้นดินในห้องวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ส่วนสวนปาล์มที่ดำเนินการขุดไปนั้นเมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็จะคืนพื้นที่ให้แก่เจ้าของที่ดินต่อไป
ด้านนายวิ ทับแสง เจ้าของสวนระบุว่า หลังจากได้รับคืนสวนปาล์มแล้วจะดำเนินปรับสภาพหน้าดินใหม่อีกรอบ โดยนำรถแบ็กโฮมาขุดยกคันดินใหม่เนื่องจากก่อนหน้านี้ชาวบ้านขุดหาทองคำจนแปลงปาล์มเสื่อมสภาพ
และสำหรับการคืนทองคำโบราณให้แก่ทางราชการนั้น ได้มีชาวบ้านนำมาคืนแล้วเป็นทองคำแผ่น กำไล ตุ้มหู รวมน้ำหนัก 1.7 กก. แต่ยังเหลืออีกจำนวนมากที่ชาวบ้านส่วนหนึ่งเก็บไว้และขายให้แก่นักสะสมของเก่าในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง อย่างแผ่นทองคำ 1 แผ่น ขณะนี้มีราคาสูงถึง 250,000 บาท และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถเรียกชาวบ้านที่เก็บหาทองคำมาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้
วันนี้ (25 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรที่ 14 จ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ทหารช่างที่ 401 ค่ายอภัยบริรักษ์ จังหวัดพัทลุง ได้ยุติการขุดหาทองคำและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่บริเวณสวนปาล์ม นายวิ ทับแสง ท้องที่ หมู่ที่ 7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง หลังจากก่อนหน้าที่ทางชาวบ้าน และเจ้าของสวนปาล์ม ได้ขุดพบทองคำโบราณเป็นจำนวนมากไปก่อนหน้านี้ และทางจังหวัดได้ประกาศเป็นแหล่งโบราณห้ามชาวบ้านเข้าดำเนินการขุด มิฉะนั้นจะผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.วัตถุโบราณปี 2504 และให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เข้าดำเนินการขุดเนื่องจากทองคำที่พบเป็นสมบัติของชาติ ไม่มีใครแสดงความเป็นเจ้าของ
ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรที่ 14 จ.นครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่ดำเนินการขุดพร้อมกับเจ้าหน้าที่กองพันทหารช่างที่ 401 โดยดำเนินการขุดด้วยมือ และรถแบ็กโฮ ขุดมาในหลุมกว้าง 10x10 ตารางเมตร ลึก 3 เมตร และจากการดำเนินการขุดมาได้ 20 วัน เจ้าหน้าที่ก็ไม่พบชิ้นส่วนทองคำ และวัตถุโบราณแต่อย่างใด จึงได้ทำการยุติการขุดพร้อมปิดหลุมเพื่อคืนพื้นที่ให้แก่เจ้าของต่อไป
ด้านนายอาณัติ บำรุงวงค์ ผอ.สำนักงานศิลปากรที่ 14 จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลังจากที่ดำเนินการขุดตามชั้นดินต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ไม่พบชิ้นส่วนทองคำที่ฝังในชั้นดินแต่อย่างใด จึงเป็นไปได้ว่า ทองคำโบราณที่ชาวบ้านพบนั้นน่าจะเป็นการนำมาฝังไว้ แต่จะฝังไว้ในยุคสมัยใดยังไม่สามารถหาที่มาที่ไปได้ ทางเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรจะต้องวิเคราะห์ตามชั้นดินในห้องวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ส่วนสวนปาล์มที่ดำเนินการขุดไปนั้นเมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็จะคืนพื้นที่ให้แก่เจ้าของที่ดินต่อไป
ด้านนายวิ ทับแสง เจ้าของสวนระบุว่า หลังจากได้รับคืนสวนปาล์มแล้วจะดำเนินปรับสภาพหน้าดินใหม่อีกรอบ โดยนำรถแบ็กโฮมาขุดยกคันดินใหม่เนื่องจากก่อนหน้านี้ชาวบ้านขุดหาทองคำจนแปลงปาล์มเสื่อมสภาพ
และสำหรับการคืนทองคำโบราณให้แก่ทางราชการนั้น ได้มีชาวบ้านนำมาคืนแล้วเป็นทองคำแผ่น กำไล ตุ้มหู รวมน้ำหนัก 1.7 กก. แต่ยังเหลืออีกจำนวนมากที่ชาวบ้านส่วนหนึ่งเก็บไว้และขายให้แก่นักสะสมของเก่าในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง อย่างแผ่นทองคำ 1 แผ่น ขณะนี้มีราคาสูงถึง 250,000 บาท และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถเรียกชาวบ้านที่เก็บหาทองคำมาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้
