ตรัง - กกต.ตรัง สั่งชุดป้องปราม พร้อมกับชุดหาข่าวลงพื้นที่ติดตามการซื้อสิทธิขายเสียงของผู้สมัคร ส.ว.ในพื้นที่ วอนประชาชนให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแสการทุจริต ด้านอดีต ส.ว.สมัยล่าสุด เรียกร้อง กกต.วางตัวเป็นกลาง อย่าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
วันนี้ (28 มี.ค) นายเสน่ห์ รักรงค์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคมนี้ ทาง กกต.ได้สั่งเข้มงวดให้ชุดป้องปราม และชุดหาข่าวลงพื้นที่ทำงานในเชิงลึกเพื่อติดตามพฤติกรรมของหัวคะแนน หรือผู้สนับสนุน หากพบการกระทำผิดซื้อสิทธิขายเสียง ให้นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดได้ทันทีแม้จะเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการก็ตาม แต่หากได้รับความร่วมมือจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และประชาชน เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการจับกุมซื้อสิทธิขายเสียงได้
ด้าน นายวิเชียร คันฉ่อง อดีต ส.ว.ตรัง สมัยล่าสุด เปิดเผยว่า การเลือกตั้ง ส.ว.ในครั้งนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการประชาสัมพันธ์ของ กกต. เพื่อให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญ ส่วนกระแสข่าวที่ว่า มีการซื้อสิทธิขายเสียงในพื้นที่จังหวัดตรังนั้น ตนพอจะได้ยินมาบ้างแล้ว และอยากฝากไปยัง กกต.ว่า อย่ามัวแต่นิ่งเฉย หรือรอให้ชาวบ้านเข้าไปร้องเรียนก่อน แต่อยากให้ลงพื้นที่เพื่อรับทราบข้อมูลปัญหาด้วยตัวเอง และที่สำคัญต้องวางตัวเป็นกลาง อย่าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้เป็นที่ครหาได้
สำหรับการที่มีผู้สมัคร ส.ว.บางรายมีความใกล้ชิด และเคยทำงานร่วมกับตนมานั้น คงไม่สามารถที่จะเลือกข้างสนับสนุนใครเป็นพิเศษได้ ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะไว้วางใจให้ใคร พร้อมทั้งอยากให้ ส.ว.ชุดใหม่ยึดหลัก 3 ประการ คือ 1.หลักกฎหมาย 2.หลักคุณธรรม 3.หลักผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติ ซึ่งสิ่งที่ตนมีความเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ การทุจริตคอร์รัปชัน จึงอยากให้มีการแก้ไขกฎหมายให้มีความรัดกุม และเข้มงวดมากกว่าเดิม มิเช่นนั้นจะทำให้ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้