xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าของสวนยางโร่แจ้งดำเนินคดี จนท.ป่าไม้กร่างไล่ยิงรถแบ็กโฮโบ้ยบุกรุก กางโฉนดถึงกับเงิบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อ.ร่อนพิบูลย์ ร่วม 10 นาย กร่างใช้ปืนยิงไล่คนขับรถแบ็กโฮ หาว่าบุกรุกที่ป่าสงวนฯ เจ้าของที่ดินและชาวบ้านเข้าปิดล้อม กางเอกสารสิทธิยืนยัน พร้อมเข้าแจ้งความ ทั้ง ตร.และ จนท.ป่าไม้ ขอไกล่เกลี่ย แต่ชาวบ้านไม่ยอมเพราะเป็นการกระทำที่ลุแกอำนาจ

วันนี้ (21 มี.ค.) นายพิภพ ด้วงศรีเงิน อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ที่ 4 ต.นาไม้ไผ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นางสธนธร สัสดีเดช อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ที่ 1 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.สัมพันธ์ วัฒนสงฆ์ สวส.สภ.ทุ่งสง ให้ดำเนินคดีต่อ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าในระดับหัวหน้าหน่วย พร้อมทั้งระบุชื่อ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในเขต อ.ร่อนพิบูลย์ ร่วมกับพวกอีกจำนวนหนึ่ง ในข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ปฎิบัติโดยมิชอบ พยายามฆ่า และลักทรัพย์

นายพิภพ ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า มีอาชีพขับรถแบ็กโฮรับจ้าง โดยขับรถของ นางสธนธร ก่อนที่จะมาแจ้งความ เมื่อตอนใกล้ค่ำของวานนี้ ( 20 มี.ค.) ระหว่างที่กำลังขับรถแบ็กโฮขุดตอไม้ยางพารา และปรับพื้นที่เพื่อที่จะปลูกยางพาราใหม่ในสวนยางพาราของ นายสุชีพ แก้วเกื้อ ในพื้นที่ หมู่ที่ 12 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จนกระทั่งได้เวลาเลิกงานจึงขับรถแบ็กโฮเพื่อที่จะกลับที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ปรากฏว่า ขณะที่ขับรถกลับอยู่นั้นได้มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดดังกล่าวประมาณ 10 นาย แต่งชุดลายพรางเดินไล่ตามมาทางหลังของรถโดยที่ไม่รู้ตัว

“จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ด้านหลังของรถแบ็กโฮที่กำลังขับอยู่ กระสุนปืนพุ่งเจาะกระจกด้านหลังห้องควบคุมกระสุนพุ่งทะลุกระจกเฉี่ยวศีรษะไปติดอยู่ที่ห้องควบคุม จึงรู้ตัวว่าถูกยิง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้กรูเข้ามาบังคับให้จอดรถพร้อมกับเปิดประตูรถดึงเอากุญแจรถเอาไปพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาว่า ตนขับรถบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ” นายพิภพระบุ

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดดังกล่าวกำลังปฎิบัติการอยู่นั้น ปรากฏว่า เสียงปืนที่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยิงใส่รถปรากฏว่า นายสุชีพ เจ้าของสวนยางซึ่งได้ยินเสียงปืนจึงพร้อมด้วยชาวบ้านพากันมายังที่เกิดเหตุ เพราะเข้าใจว่าคนร้ายจะมาปล้นเอารถแบ็กโฮ กลับพบเจ้าหน้าที่ชุดป่าไม้มาจับหาว่าบุกรุกที่ป่าสงวน ซึ่งทางนายสุชีพ ได้แจ้งให้ทางป่าไม้ทราบว่าไม่ได้บุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติแต่อย่างใด เพราะมีเอกสารสิทธิ (โฉนดที่ดิน) ที่ดินเป็นเรียบร้อย แต่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่ยอมเชื่อ จะจับและยึดรถแบ็กโฮไปดำเนินคดีท่าเดียว จึงสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านที่มากันเป็นอย่างมากที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่ยอมรับฟัง

นายสุชีพ และชาวบ้านเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ โดยการใช้อาวุธปืนยิงใส่รถ เคราะห์ดีที่กระสุนปืนไม่ถูกคนขับรถ นอกจากนี้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม่ยังดึงกุญแจรถเอาไปด้วยชาวบ้านจึงพากันล้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดดังกล่าวไว้พร้อมตรวจที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ที่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยิงใส่รถได้ 1 ปลอก ชาวบ้านจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนปลอกกระสุนปืนลูกซองที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ยิงใส่รถที่ตกอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้เก็บไปหมดชาวบ้านพากันปิดล้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้อยู่นานประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง

ต่อมา พ.ต.ท.รังสรรค์ สุขเกื้อ รอง ผกก.(ป.) สภ.ทุ่งสง ทราบเหตุที่ชาวบ้านปิดล้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้เนื่องจากไม่พอใจในการกระทำที่เกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ซึ่งเกรงว่าเหตุการณ์จะบานปลายจึงได้นำกำลังมาที่เกิดเหตุพร้อมกับเชิญทั้ง 2 ฝ่ายไปเจรจากันที่โรงพักโดยมีชาวบ้านประมาณ 50 คน ตามไปดูเหตุการณ์ด้วย เมื่อไปโรงพักทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดดังกล่าวพยายามที่จะแจ้งความดำเนินคดีนายพิภพ และยึดรถแบ็กโฮ ในข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ แต่นายสุชีพได้นำเอาเอกสารสิทธิ (โฉนดที่ดิน) แปลงดังกล่าวให้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และทางตำรวจดู

เมื่อทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจสอบดูหลักฐานแล้วเห็นว่าที่ดินที่รถแบ็กโฮไปขุด และปรับสถานที่ดินนั้นมีเอกสารสิทธิถูกต้อง จึงพยายามที่จะขอไกล่เกลี่ยเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทางฝ่ายนายพิภพ และชาวบ้านเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดดังกล่าวนี้ กระทำการลุแก่อำนาจจึงไม่รับการไกล่เกลี่ย และได้มาแจ้งความ ซึ่ง พ.ต.ท.สัมพันธ์ วัฒนสงฆ์ สารวัตรเวรได้รับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และจะทำหนังสือแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดดังกล่าวทราบ และให้มารับข้อกล่าวหาต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น