xs
xsm
sm
md
lg

นายทุนเหิมรุก-เผาทำลายป่าโซนซีเสียหายกว่า 8 ไร่ ผู้ว่าฯ ตรวจสอบด่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต นำทีมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบนายทุนเหิมเผาป่าเขานางพันธุรัตน์ ม.5 ต.กะทู้ เสียหายกว่า 8 ไร่ เตรียมปลูกพืชเศรษฐกิจ ขณะเข้าตรวจสอบไฟยังคุอยู่ ผู้ว่าฯ สั่งเข้มดำเนินการตรวจสอบจับกุมต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (19 มี.ค.) นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนาย สายัณห์ ชนะชัยวงศ์ นายอำเภอกะทู้ นายเกษม สุขวารี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ภูเก็ต นายไพศาล หนูพิชัย หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ภก.ที่ 12 ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งทอง เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ป่าพันธุรัตน์ หมู่ 5 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกแผ้วถาง และจุดไฟเผา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ที่เกิดเหตุต้องใช้รถโฟร์วีลในการเดินทางออกจากหลังเทศบาลเมืองกะทู้เข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร และจะต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นเนินเขาสูงความชันกว่า 50 องศา

ซึ่งการเข้าไปตรวจสอบในครั้งนี้พบว่า ร่องรอยการเผาป่าเพิ่งเกิดขึ้น เนื่องจากยังมีควันไฟในบางจุด และยังมีไอความร้อนระอุอยู่ในพื้นที่ที่มีการเผาทำลายประมาณ 4 ไร่เศษ นอกจากนั้น ยังพบว่ามีการปรับพื้นที่เป็นขั้นบันไดเพื่อที่จะปลูกพืชเศรษฐกิจประเภทยางพาราด้วย รวมพื้นที่ที่มีการบุกรุกประมาณ 8 ไร่ ในเบื้องต้นจากการเข้าตรวจสอบไม่พบผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานเพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป

นายไมตรี กล่าวว่า พื้นที่ป่าเทือกเขานาคเกิด และเป็นป่าโซนซี เป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะมีการบุกรุกทำลายป่า โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่ ต.กะทู้ และ ต.กมลา จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการบุกรุก และจากการเข้าไปตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เมื่อวานที่ผ่านมา (18 มี.ค.) พบว่า มีการลักลอบแผ้วถางป่า กานต้นไม้ และเผาป่าเพื่อทำลายต้นไม้ เตรียมที่จะการปลูกพืชเศรษฐกิจประเภทยางพารา วันนี้ (19 มี.ค.) ตนจึงเดินทางมาตรวจสอบ และดูสภาพพื้นที่ พร้อมสั่งการให้ตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าว และจัดชุดเฝ้าระวัง โดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมีจำนวน 8 ไร่ และเผาทำลายไปแล้ว 4 ไร่ ซึ่งในการตรวจสอบพื้นที่ป่านั้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตรวจสอบเป็นระยะๆ อยู่แล้ว เพราะพื้นที่ป่าของภูเก็ตมีความเสี่ยงที่จะถูกบุกรุกตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวัง และติดตามตลอดเช่นเดียวกัน

 
 








กำลังโหลดความคิดเห็น