ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จ.สงขลา คาดปีนี้แล้งนาน และส่งผลกระทบรุนแรง เร่งระดมสรรพกำลังรับมือภัยแล้ง ผู้ว่าฯ สั่งกำชับทุกหน่วยทำความเข้าใจกับประชาชน เตรียมพร้อมรับมือ มุ่งเน้นให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ และสามารถป้องกัน แก้ไขปัญหาภัยแล้งได้เป็นการเบื้องต้น
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่ห้องประชุมศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดแถลงข่าว พร้อมชี้แจงสถานการณ์ และแนวทางประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชน ในการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง ซึ่งคาดว่าปีนี้จะแล้งนาน และส่งผลกระทบรุนแรงกว่าทุกปี
โดยการประชุมชี้แจงแถลงข่าวครั้งนี้ มี ว่าที่ พ.ต.ธีระ สันติเมธี ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา ในฐานะหน่วยงานหลักที่ให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ได้กล่าวถึงความพร้อมในการสนับสนุนให้ความช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดสงขลา ทั้งด้านกำลังคน และเครื่องมือ นายวิญญ์ สิทธิเชนทร์ ท้องถิ่นจังหวัดสงขลา ในฐานะหน่วยงานประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นกำลังหลักในระดับท้องถิ่นในการให้ความช่วยเหลือประชาชน เมื่อเกิดสถานการณ์ภัยแล้ง ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และนายอำนาจ ผลมาตย์ หัวหน้า สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบัน และคาดการณ์ถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ยังได้จัดแสดงสาธิตการระงับอัคคีภัยขนาดเล็ก ด้วยอุปกรณ์ที่หาได้ใกล้ตัว และการระงับอัคคีภัยขนาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบรุนแรง โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนงในพื้นที่จังหวัดสงขลา ร่วมรับฟังการชี้แจงแถลงข่าว กว่า 50 คน
นายดำรง เศวตพรหม ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา ผู้รับผิดชอบการจัดการประชุมแถลงข่าวครั้งนี้ กล่าวว่า การจัดประชุมชี้แจงแถลงข่าวมุ่งหวังที่จะให้สื่อมวลชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องทันต่อสถานการณ์ ซึ่งคาดว่าปีนี้ภาวะภัยแล้งจะมีความรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพื่อให้สื่อมวลชนสามารถนำข้อมูลไปประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชน ในการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งมุ่งเน้นที่จะให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์และสามารถป้องกัน และแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้เป็นการเบื้องต้น
เช่น การขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่มาให้ความช่วยเหลือ การสำรองน้ำไว้ใช้ ทั้งการอุปโภคบริโภค หลีกเลี่ยงการทำการเกษตรที่ใช้น้ำมาก การไม่นิ่งดูดายเมื่อพบเห็นอัคคีภัย ด้วยการจัดการดับไฟขนาดเล็กด้วยตัวเอง หรือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวเข้ามาแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะลุกลามสร้างความเสียหายในระดับวงกว้าง
