“เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์” ท้าชน “เปี่ยน กี่สิ้น” เปิดตัวชิงเก้าอี้นายกป่าตอง

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์” ประกาศลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ชูเร่งแก้ “5 จำทน ถึงเวลาต้องก้าวพ้น” ที่เป็นปัญหารื้อรังยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้ป่าตองกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม มั่นใจในคะแนนเสียง และความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานเพื่อคนป่าตอง ยอมรับการแข่งขันรุนแรงอย่างแน่นอน เพราะต้องลงแข่งกับ “เปี่ยน กี่สิ้น” อดีตนายกฯ ป่าตอง ที่นั่งเก้าอี้มานานติดต่อกันหลายสมัย

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (18 มี.ค.) น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ อดีต ส.ส.ภูเก็ต แถลงข่าวเปิดตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ภายหลังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิพากษาให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลป่าตอง และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลป่าตอง ใหม่อีก 4 คน เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2557 โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 26 เม.ย.2557 นี้ ณ ร้านแมนทรีโอ ต.ทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ว่า

ภายหลังจากที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิพากษาให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลป่าตอง และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองป่าตอง 4 คนนั้น ตนสนใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เพราะหลังจากที่ว่างเว้นจากการเป็น ส.ส.มา 2 ปี และได้ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ป่าตอง ทำให้ทราบว่า ป่าตองมีปัญหาหลายๆ อย่างที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ประกอบกับในเวลานี้ในเรื่องของการทำธุรกิจก็อยู่ตัวแล้ว จึงมีเวลาว่างที่จะอาสามาทำงานส่วนรวม และเป็นโอกาสดีที่ตำแหน่งนายกเทศมนตรีป่าตองว่างเว้นลง ตนจึงตัดสินใจลงลงสมัครรับเลือกตั้งนายกฯ โดยจะไปสมัครในวันที่ 20 มี.ค.นี้ ที่เทศบาลเมืองป่าตอง

โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ ได้วางนโยบายหลักในการหาเสียง คือ “5 จำทน ถึงเวลาต้องก้าวพ้น” โดยการเร่งเข้าไปแก้ 5 ปัญหาที่คนป่าตองต้องทนอยู่กับปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข คือ ปัญหาผลประโยชน์บนที่สาธารณะ พื้นที่ส่วนรวมของประชาชน นักท่องเที่ยว ที่ถูกเบียดบัง ยึดครองด้วยการแสวงหาประโยชน์ของคนบางกลุ่ม 2.ปัญหาสิ่งแวดล้อมเสื่อม การดูแลล้มเหลว ทำให้ป่าตองกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เสื่อมโทรม 3.ปัญหาน้ำท่วม ที่เกิดขึ้นทุกครั้งในป่าตองเมื่อเกิดฝนตกหนัก และน้ำทะเลหนุน 4.ปัญหาการจราจรติดขัดที่เข้าขั้นวิกฤต รวมทั้งการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และปัญหามาเฟีย ผู้มีอิทธิพล ที่กำหนดโดยใครบางคน ซึ่งหากชาวป่าตองไม่ต้องการทนอยู่กับปัญหาเหล่านี้ ตนพร้อมอาสาเข้าไปแก้ปัญหาให้ แต่ปัญหาทั้งหมดไม่สามารถที่จะแก้ได้ด้วยคนเพียงคนเดียวจะต้องจากจากความร่วมมือของคนป่าตองทุกคน

น.ส.เฉลิมลักษณ์ กล่าวต่อไปถึงแนวการแข่งขันในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ว่า การเลือกตั้งในป่าตองทุกครั้งมีมีการแข่งขันที่รุนแรงความพื้นที่อื่นๆ และถือว่าเป็นพื้นที่มีการแข่งขันกันรุนแรงที่สุด มีคนให้ความสนใจมาก เพราะมีพื้นที่แคบ ทุกคนรู้ และให้ความสนใจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และในการแข่งขันเรื่องของการเลือกตั้งนั้นแข่งกันมาหลายรอบแล้วแต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นการแข่งขันในพื้นที่ การแข่งขันสูงแต่เชื่อว่าไม่มีความรุนแรง ส่วนเรื่องของการหาเสียงนั้นได้มีการลงไปพบปะกับคนในพื้นที่เพื่อพูดคุย และนำเสนอแนวความคิดในการแก้ไขปัญหาของป่าตองอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งรับฟังปัญหาของคนในพื้นที่เพื่อนำมาบรรจุเป็นนโยบายในการหาเสียง

ขณะที่ความมั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนตัดสินใจแล้ว และมีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานให้แก่เมืองป่าตอง แต่สุดท้ายจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่ขึ้นอยู่การตัดสินใจของประชาชนในพื้นที่ว่ามั่นใจที่จะให้เข้ามาทำงานหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนตัวมั่นใจ และตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานเพื่อคนป่าตอง

น.ส.เฉลิมลักษณ์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงกรณีที่กล่าวว่า เคยเป็น ส.ส. มาก่อน และมาลงเลือกตั้งในสนามเล็กจะเป็นการลดศักดิ์ศรีหรือไม่ ว่า โดยส่วนตัวไม่ได้มองว่าตำแหน่ง ส.ส.จะมีศักดิ์ศรีเหนือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น แต่ที่ตัดสินใจมาลงเลือกตั้งก็เพื่อที่จะนำความรู้ประสบการณ์ที่เคยเป็น ส.ส.มาพัฒนาเมืองป่าตองให้ก้าวหน้าต่อไป

สำหรับ น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นั้น เป็นคนป่าตองโดยกำเนิด เล่นการเมืองตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงการเมืองระดับประเทศ โดยก่อนหน้าที่จะลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ได้เป็นสมาชิกสุขาภิบาลเมืองป่าตอง และสมาชิกสภาตำบลป่าตองมาก่อน และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ 2 สมัย ในปี 2544-2548 และปี 2550-2553 และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2550-2553

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองในครั้งนี้ จะเป็นการแข่งขันระหว่าง นายเปี่ยน กี่สิ้น อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง สมัยที่ผ่านมา กับ น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ เพียง 2 คนเท่านั้น และจะเป็นการแข่งขันที่รุนแรง และเป็นมวยที่ถูกคู่ที่สุดตั้งแต่มีการเลือกตั้งนายกฯ ป่าตอง เพราะทั้งคู่ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนป่าตองทั้งคู่