ยะลา - สมาคมกอรีแห่งประเทศไทย จัดประกวดทดสอบการอ่านอัลกุรอานสู่อาเซียน ระดับประเทศ โดยผู้ชนะจะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในระดับอาเซียน ซึ่งมีประเทศเข้าร่วมทั้งหมด 10 ประเทศ ที่กรุงเทพหมานคร ในระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคม 2557
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่มูลนิธิมะทา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดงานโครงการทดสอบการอ่านอัลกุรอานสู่อาเซียน ระดับประเทศ โดยมีนายสนิท เอี่ยมฤทธิ์ นายกสมาคมกอรีแห่งประเทศไทย นายมุขตาห์ มะทา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา นายอุดร น้อยทับทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายอาซิส เบ็ญหาวัน ประธานสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำศาสนา เยาวชนกว่า 500 คน เข้าร่วมในงานครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังมีการอัญเชิญคัมภีร์อัลกุรอาน โดย นายอับดุลหามิด เซ็งกะจารี อิหม่ามประจำมัสยิดในอำเภอรามัน จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นผู้ชนะเลิศการอ่านคัมภีร์อัลกุรอานในประเทศมาเลเซีย
นายมุขตาห์ มะทา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา กล่าวว่า ในวิถีชีวิตของอิสลาม อัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่มีความสำคัญ และเป็นบทบัญญัติของศาสนาอิสลามที่กำหนดแนวทางการดำเนินชีวิตของศาสนิกชน ดังนั้น ในบริบทและแนวทางการดำเนินชีวิตของอิสลามจึงไม่สามารถแยกแยะระหว่างคัมภีร์อัลกุรอานกับการดำเนินชีวิตออกจากกันได้ ในชีวิตประจำวันของผู้นับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้น การอ่านอัลกุรอาน จึงเป็นสิ่งที่จะนำพาซึ่งความดีงามมาสู่สังคม ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้ประชาชน และเยาวชนได้อ่านอัลกุรอานกันมากขึ้น โดยเชื่อว่าการอ่านอัลกุรอาน จึงเป็นกิจกรรมอีกประการหนึ่งที่จะส่งเสริมทำนุบำรุงศาสนา ให้ประชาชนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา และปฏิบัติตามหลักคำสอนทางศาสนา ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตของชาวมุสลิม
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า คัมภีร์อัลกุรอานเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เป็นอมตะในศาสนาอิสลาม ยิ่งวิชาการสมัยใหม่ได้พัฒนาและเจริญรุดหน้าไปมากเท่าใด ยิ่งทำให้คัมภีร์อัลกุรอานมีความมหัศจรรย์มากขึ้น พระอัลลอฮได้ทรงประทานคัมภีร์อัลกุรอานมาสู่มนุษย์ทั้งมวล โดยผ่านพระศาสดาทูตของพระองค์ คือ ศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) เพื่อให้นำมนุษย์ออกจากความมืดไปสู่แสงสว่าง และชี้ทางนำให้พวกเขาไปสู่หนทางอันเที่ยงตรง ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า คัมภีร์อัลกุรอาน สามารถสนองความต้องการของมนุษย์ได้ทุกแง่มุมตามพื้นฐานของศาสนาแห่งฟากฟ้า
สำหรับการจัดกิจกรรมอ่านอัลกุรอานก็เช่นกัน ถือได้ว่าทุกหน่วยงานได้สืบทอดอัตลักษณ์อันโดดเด่นของมุสลิม ความไพเราะของนักกอรีสามารถถ่ายทอดความรู้สึก และสื่อความหมายได้โดยปริยาย อย่างน้อยก็เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้ซาบซึ้ง และสัมผัสถึงรสธรรมคำสอนในมหาคัมภีร์อัลกุรอานด้วยความศรัทธา และยึดมั่นในการดำรงตน ซึ่งวันนี้ไม่อยากให้เห็นแค่กระบวนการทดสอบอัลกุรอานเท่านั้น แต่อยากให้มีโรงเรียนสอนท่องจำอัลกุรอานเกิดขึ้น ซึ่งการเรียนในสายสามัญนั้น จะต้องสอดแทรกความรู้ทางศาสนาเข้าไปด้วย
ซึ่งในช่วงหนึ่งของการอัญเชิญคัมภีร์อัลกุรอานของอิหม่ามประจำมัสยิดในอำเภอรามัน จังหวัดยะลา ผมทราบมาว่า มีช่วงหนึ่งของคัมภีร์อัลกุรอาน แปลเป็นไทยแล้วมีความหมายว่า “สังคมต้องการมิตรภาพและสันติภาพ” ซึ่งผมเชื่อว่ามวลมนุษย์ทุกคนในโลกใบนี้เป็นพี่น้องกัน สามารถที่จะร่วมกันสร้างมิตรภาพ และสันติภาพให้เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ได้
สำหรับกิจกรรมการอ่านคัมภีร์อัลกุรอานสู่อาเซียน เป็นการคัดเลือกในระดับประเทศ ซึ่งผู้ชนะเลิศในวันนี้จะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันการอ่านคัมภีร์อัลกุรอานในระดับอาเซียน ซึ่งมีประเทศเข้าร่วมทั้งหมด 10 ประเทศ ณ สำนักบริหารกิจการศาสนาอิสลาม เฉลิมพระเกียรติ กรุงเทพมหานคร ในระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคม 2557