พัทลุง - ชาวบ้านร้องนายทุนรุกโค่นป่าอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง อึ้ง! พบต้นไม่ถูกโค่นไปแล้วกว่า 50 ไร่ เพื่อเตรียมพื้นที่ปลูกยางพารา เผยเบื้องต้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ค่อยช่วยเหลือ ด้านผู้ว่าฯ กำชับเร่งสอบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว
วันนี้ (10 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า นายวิทยา นุ่นแจ้ง หน.ชุดเฉพาะกิจผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมกำลัง อส.และนายสมโชค เอกหัณราษฎร์ นายก อบต.ตะแพน อ.ศรีบรรพต และอาสาสมัครชาวบ้านคนรักป่ากว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าต้นน้ำในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่า กลุ่มนายทุนจาก อ.ป่าพะยอม ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า ได้นำรถแบ็กโฮ และรถแทรกเตอร์ ตัดถนนยาวกว่า 2 กม. เข้าไปในพื้นที่ป่าต้นน้ำในท้องที่ ม.6 ต.เขาปู่ อ.ศรีบรรพต เพื่อเตรียมตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ออกจากป่าในพื้นที่ดังกล่าว
ซึ่งจาการการตรวจสอบพื้นที่ไปตามไหล่เขาพบต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกตัดออกมาข้างนอกบางส่วนเพื่อตัดถนน และบางส่วนยังไม่ได้ทำการชักลากลงมา และพื้นที่ป่าประมาณ 50 ไร่ถูกกลุ่มนายทุนได้ทำการตัดต้นไม้ขนาดใหญ่เพื่อยึดพื้นที่เตรียมปลูกยางพารา และมีบางส่วนได้ทำการตัดต้นไม้ขนาดเล็กออกให้โล่งเตียน เพื่อรอจังหวะตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ออกมาในคราวหลัง
จากการตรวจยึด เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถแทรกเตอร์ได้ 1 คัน ส่วนผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ นอกจากนั้นได้ตรวจพื้นที่ป่าพบว่าถูกบุกรุกแผ้วถางแล้วกว่า 50 ไร่ และประสานหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า เข้าพื้นที่ตรวจสอบ และแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มนายทุนอีกครั้ง
จากการเปิดเผยของชาวบ้านระบุว่า กลุ่มนายทุนได้ทำการตัดถนนเข้าไปในป่าต้นน้ำมานานกว่า 1 เดือนแล้ว และขณะที่ตัดถนนก็ได้มีการขนย้ายไม้ออกจากป่าโดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานเขาปู่-เขาย่า คอยอำนวยความสะดวกให้ จนไม่มีใครกล้าแตะต้อง จนชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ทำไม่ไหวจึงได้เข้าร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เพื่อให้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว และสำหรับพื้นที่ที่กลุ่มนานทุนแผ้วถางตัดถนนไม้เข้าไปนั้นพบว่า อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า เพียง 1 กม เท่านั้น
ขณะที่นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเร่งทำคดีให้ถึงที่สุด พร้อมกับหาตัวบงการมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ และได้ประสานไปยังอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้เร่งตรวจสอบเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับป่าอุทยานให้ย้ายออกจากพื้นที่โดยเร็ว
